วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ใบงานที่ 2 เรื่อง พุดดิ้งญี่ปุ่น

ใบงานที่  2 เรื่อง พุดดิ้งญี่ปุ่น


ต้นกำเนิดพุดดิ้ง
ต้องขอย้อนไปเมื่อสมัย ศตวรรษที่ 15-16 ซึ่งเป็นสมัยที่คนเชื่อว่าโลกกลม ทำให้มีการออกสำรวจดินแดนใหม่สำหรับนักเดินทางยุคต้น ๆ ของศตวรรษ ในสมัยนั้นประเทศสเปนและอังกฤษซึ่งเป็นประเทศผู้นำในการเดินทางสำรวจและยึดครองดินแดนใหม่กันอย่างคับคั่ง ในช่วงนั้นประเทศอังกฤษสามารถเอาชนะและยึดครองดินแดนและชายฝั่งทะเลได้ถึง 7 แห่ง แต่ความราบรื่นนั้นย่อมแฝงไปด้วยความขมขื่นเสมอ
เรือรบของอังกฤษที่เข้าร่วมสงครามครอบครองดินแดนนั้นประสบปัญหาเกี่ยวกับปากท้องของลูกเรือขึ้น เพราะการออกเดินทางแต่ละครั้งจะต้องใช้เวลาอยู่กับท้องทะเลนานหลายเดือน อาหารที่มีอยู่ก็ร่อยหรอ มิหนำซ้ำ บางครั้งอาหารที่ทำจะเหลือทิ้งไปเปล่าประโยชน์เพราะใช้ทานในวันต่อไปไม่ได้ก็ตาม จำเป็นต้องทิ้ง เหตุนั้นเอง พ่อครัวหัวใสจึงคิดเมนูที่สามารถทำแล้วถนอมอาหารไว้ทานได้เป็นเวลานาน โดยเค้าใช้ส่วนผสมง่าย ๆ คือ เศษขนมปัง แป้งสาลี และไข่ไก่ ผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็ห่อด้วยผ้าสะอาด นำไปอบ เป็นอันเสร็จ ตรงกับ concept (ง่าย ๆ กินได้หลายวัน) และนั่นเองเป็นเหตุที่มาของตำนาน “พุดดิ้ง” จากข้อมูลนั้นไม่ได้บอกอย่างละเอียดว่าทำไมพุดดิ้งถึงสามารถแพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไปได้ เพราะเจ้าของสูตรต้นตำรับเป็นพ่อครัวบนเรือ แต่จากการสันนิษฐานแล้ว คงจะเป็นเพราะรสชาติที่ถูกปาก และทานได้ง่าย ทำให้ลูกเรือติดอกติดใจ และจำสูตรนั้นไปบอกต่อให้กับคุณแม่บ้าน ปากต่อปาก อีกทั้งรสชาติยังเป็นที่นิยม ทำให้พุดดิ้ง แพร่หลายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จากเกียรติศัพท์ของความอร่อยและวิธีทำที่ไม่ซับซ้อนนี้เอง?พุดดิ้งจึงขยายความนิยมไปทางแถบเอเชียของเราและที่ประเทศญี่ปุ่น พุดดิ้ง ได้รับความสนใจในช่วงยุคสมัยเมจิ (พ.ศ.2411-2455) ถ้าหากเทียบกับสมัยของประเทศไทยแล้วก็คือ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 นั่นเอง

ทำไมถึงมีชื่อเรียกว่า พุดดิ้ง(Pudding)
ตามรากศัพท์ของภาษาอังกฤษในยุคโบราณ จะเรียกว่า puduc ซึ่งแปลว่า ของที่มีรูปร่าง ลักษณะบวมเป่ง เต่งตึง ซึ่งตรงกับรูปลักษณ์ของเจ้าพุดดิ้ง ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงชื่อเรียก ซึ่งแปลจากภาษาอังกฤษในยุคกลาง คือ podding คำนี้มาจากลักษณะของพุดดิ้ง ที่ไปตรงกับลักษณะของไส้กรอกชนิดหนึ่ง จึงเรียกเป็นคำเดียวกัน และคำปัจจุบันที่ใช้เรียกคือ pudding คำนี้จะใช้เรียกประเภทอาหารที่ทำโดยการอบทุกชนิด ถัดจากนั้นมาจึงมีการคิดเมนูใหม่ ๆ ของอาหารที่ทำด้วยการอบหลายชนิด แต่ยังคงใช้คำว่า pudding ต่อท้ายในเมนูหลาย ๆ ชนิด ตัวอย่างเช่น rice-pudding , bread and butter-pudding, black-pudding , chocolate-pudding ฯลฯ และพุดดิ้งก็ยังใช้เป็นเมนูหลักไปจนถึง ของหวาน อีกด้วย
ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที ผู้คนเค้าก็เรียกว่า pudding กันล่ะคับ แต่ว่าด้วยความผิดแผกของสำเนียง และการส่งต่อทางภาษาเอง ทำให้คำว่า pudding นั้นเปลี่ยนแปลงไปเป็น podding บ้าง และอีกหลาย ๆ คำ แต่ท้ายที่สุดผู้คนเค้าก็ใช้คำว่า “พูริง (puring)” ซึ่งเป็นคำที่เรียกง่าย และตรงความหมายกับหน้าตาของพุดดิ้งที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน ซึ่งเป็นพุดดิ้งชนิดหนึ่งที่เรียกว่า custard-pudding

Japanese Pudding พุดดิ้งญี่ปุ่น
       เมนูขนมหวานวันนี้ คือ Japanese Pudding หรือ พุดดิ้งญี่ปุ่นนั่นเอง หลังจากหายไปนานเป็นเดือนวันนี้แอดมินได้นำสูตรของการทำพุดดิ้งเย็นๆ สำหรับช่วงนี้เริ่มที่จะมีอากาศร้อนเข้าทุกที จึงแนะนำพุดดิ้งนุ่มๆ หวานหอมตัดด้วยรสชาติเปรี้ยวของสตอเบอร์รี่ เสิร์ฟทานเย็นๆ จะช่วงให้ใจเย็นไปด้วยจ้า ;))

สูตรพุดดิ้งญี่ปุ่น Japanese Pudding
ส่วนผสมสำหรับ 5 ถ้วยกลาง
เวลา 3 ชั่วโมง

The mixture for 5 cups.
For 3 hours.

อุปกรณ์
1. หม้อ
2. ตระกร้อ
3. ไม้พาย
4. มีด
5. ถ้วยแก้ว
6. ชามผสม

Pot
Trakrga
Oar
Knife
Beaker
Mixing bowl

ส่วนผสมพุดดิ้งญี่ปุ่น Japanese Pudding
1. นมสดรสจืด 250 กรัม
2. น้ำตาลทราย 20 กรัม
3. เจลาตินแผ่น 6 แผ่น
4. ไข่แดง 1 ฟอง
5. วิปปิ้งครีม 80 กรัม
6. กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา
7. สีชมพู ตามชอบ
8. ดอกไม้ตามชอบ (ดอกซากุระ) ตามชอบ
9. แยมสตรอเบอร์รี่ 300 กรัม
10. สตรอเบอร์รี่สด ตามชอบ

250g fresh milk tasteless .
20 grams of sugar.
Gelatin sheets, 6 sheets.
1 egg yolk.
Whipping cream 80 g.
Vanilla 1/2 tsp.
Color of your choice.
Like flowers (cherry blossoms) to taste.
Strawberry jam 300 g.
Fresh strawberry

วิธีทำพุดดิ้งญี่ปุ่น Japanese Pudding
1. ใส่น้ำตาล นมสดลงในหม้อ
2. ต้มจนน้ำตาลละลาย
3. นำเจลาตินแช่น้ำจนอ่อนนุ่ม
4. เมื่อน้ำตาลละลายจนหมด เทลงในไข่แดง
5. ค่อยๆเทและใช้ตะกร้อตีไข่ตีจนนมหมด
6. ใส่เจลาตินลงในชามคนจนเจลาตินละลาย
7. พักไว้จนเย็นสนิท
8. หั่นสตรอเบอร์รี่ใส่ในถ้วยที่เตรียมไว้
9. ใส่แยมสตรอเบอร์รี่ นำไปแช่ตู้เย็น 15 นาที
10. เมื่อนมหายร้อน ใสส่วิปปิ้งครีมลงไป
11. ค่อยๆคนจนเข้ากันดี
12. ตักใส่ถ้วยที่ใส่สตรอเบอร์รี่เตรียมไว้
13. นำเข้าตู้เย็น 2-3 ชั่วโมงให้เซ็ตตัว (แล้วแต่ขนาดถ้วย)
14. นำออกมาตกแต่งตามชอบ
15. เสิร์ฟเย็นค่ะ


Credit :http://sweetcake-happytime.blogspot.com/2012/10/japanese-pudding.html


การทำพุดดิ้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น