..วันนี้เราจะพามารีวิว MONSANE Ratchapruek-Chaengwatthana (มนต์เสน่ห์ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ) บ้านเดี่ยวหน้ากว้างไซส์ใหญ่ ติดถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ ที่ส่วนตัวผมคิดว่ามีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่มากๆครับ และสามารถอยู่ร่วมกันแบบ 3 Generation ได้สบายๆเลยทีเดียว รวมถึงยังให้วัสดุภายในมาค่อนข้างดีอีกด้วย ส่วนจุดเด่นหรือ Highlights อื่นๆของโครงการจะมีดังต่อไปนี้ครับ

  • บ้านหน้ากว้าง พื้นที่ใช้สอยเยอะ มีห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างทุกแบบ และบ้านไซส์กลาง-ใหญ่จะได้ Double Master Bedroom 2 ห้อง สามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ได้สบาย
  • ให้วัสดุมาดี ประตู-หน้าต่าง TOSTEM ทั้งหลัง + นวัตกรรมจาก Siamese Technology ที่ช่วยเรื่องการอยู่อาศัยและประหยัดพลังงานของตัวบ้าน
  • บรรยากาศโครงการดี มีสวนยาวตลอดแนวถนนหลัก พื้นที่สีเขียวรวมกว่า 5 ไร่ พร้อมอาคาร Clubhouse สไตล์ปราสาท Disney เป็นเอกลักษณ์สวยงาม
  • จัดผังโครงการได้ดี มีเพื่อนบ้านร่วมซอยน้อยสุดเพียง 2 – 4 ยูนิตเท่านั้น จึงค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวดีทีเดียว

ข้อมูลโครงการ

MONSANE Ratchapruek-Chaengwatthana (มนต์เสน่ห์ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ) ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567

 ชื่อโครงการ   MONSANE Ratchapruek-Chaengwatthana (มนต์เสน่ห์ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนน ราชพฤกษ์  อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัด นนทบุรี
 ที่ดิน  65-0-30.5 ไร่
 จำนวนยูนิต  187 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • BELLE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 67 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 317 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท
  • L’AMOUR บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 79 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 392 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 17 ล้านบาท
  • ENCHANTE’ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 97 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 2 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 21 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.9 – 3 เมตร และฝ้าสูง Double Volume 6.6 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ    90,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2566
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2569
 เว็บไซต์โครงการ   https://monsane-chaengwatthana.com/
 โทร   1306

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ตัดใหม่ และมีจุดให้กลับรถเข้าเมืองได้สะดวก
  • ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก สามารถใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองไกลๆได้
  • ทำเลมีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และไม่วุ่นวาย

พิกัด Google Maps : 13.956539, 100.458071
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

..โครงการ MONSANE ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ตั้งอยู่ติดถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ ใกล้ๆกับจุดตัดของแยกถนน 345 ถือว่าเป็นทำเลที่อยู่อาศัยเกิดใหม่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองครับ เพราะด้วยความที่ตัวเมืองมีการเจริญเติบโต และได้แผ่ขยายออกมามากขึ้นเรื่อยๆ โดยปัจจุบันบริเวณใกล้ๆกับโครงการ จึงยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่มากนัก อาจต้องรอดูในอนาคตอีกทีว่าถ้ามีหมู่บ้านเปิดใหม่เยอะขึ้นอีก ก็อาจมีห้างหรือคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่ๆตามมาก็เป็นได้ครับ

โดยความอุดมสมบูรณ์ปัจจุบันจะอิงกับโซนใกล้เคียง อย่างโซนราชพฤกษ์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นโรบินสัน โฮมโปร และ Chic Replublic หรือจะเป็นอีก 3 โซนหลักใกล้ๆคือ Central WestGate / โรบินสันศรีสมาน และ Central แจ้งวัฒนะ เป็นต้น แน่นอนว่าทำเลนี้ก็ตอบโจทย์สำหรับคนที่ทำงานและเน้นการใช้ชีวิตอยู่ในโซนต่างๆเหล่านี้ครับ หรือถ้าใครที่อาจต้องมีการเดินทางไกลๆ ก็จะมีถนนกาญจนาภิเษกอยู่ใกล้ๆให้ใช้งานได้สะดวกด้วย

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :

ถนนกาญจนาภิเษกอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 8.8 km. และใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีครับ สามารถไปยังพระราม 2 – สมุทรปราการ หรือจะออกเมืองไปบางปะอินก็ได้

โดยเราจะต้องมีการกลับรถใต้สะพานอยู่ 2 ครั้งบนถนนราชพฤกษ์ และถนน 345 แต่ถ้าใครที่ใช้รถคันใหญ่ๆอย่างพวก Super Car แล้วไม่สะดวกที่จะกลับใต้สะพานมากนัก ก็อาจขับเลยไปอีกไม่กี่โลก็จะเจอทางกลับรถปกติให้ใช้งานได้เช่นกัน

การเดินทางมายังโครงการจากถนนกาญจนาภิเษก :

สำหรับใครที่ไม่ค่อยชินเส้นทาง มีจุดที่ต้องสังเกตให้ดีๆเพียงจุดเดียวก็คือ การเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์-ปทุมธานี จะต้องใช้ช่องทางซ้ายสุดเท่านั้น เพราะถ้าเราเลี้ยวผิดไปเข้าเลนตรงกลางก็อาจไปผิดทางและวนกลับมายังราชพฤกษ์ได้ครับ

การเดินทางมายังโครงการจากราชพฤกษ์ :

ปกติแล้วหากเราปักหมุดใน Google Map เส้นทางจะบอกให้เราต้องขึ้นวงแหวนและกลับรถวนไป-มา ซึ่งหลายๆคนอาจงงเส้นทางได้ง่ายมากๆ แต่จริงๆแล้วตำแหน่งที่ตั้งของโครงการจะอยู่ตรงทางลงสะพานข้ามแยกพอดี ดังนั้นเราจึงสามารถขับตรงขึ้นสะพานมาได้เลยครับ (Google Map ไม่ได้แนะนำเพราะคิดว่าเลยทางลงสะพานไปแล้วนั่นเอง)

โดยเส้นทางนี้โครงการเป็นผู้แนะนำมา เผื่อเป็นตัวเลือกที่จะช่วยทำให้การเข้าถึงโครงการได้สะดวกมากขึ้นครับ ซึ่งพอเราลงสะพานมาก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่โครงการได้แบบนี้เลย

แต่ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้งานสักหน่อยครับ เพราะเส้นจราจรตรงนี้จะเป็นเส้นทึบ ปกติจึงไม่ควรขับรถข้ามเลน แต่ด้วยถนนตรงนี้ไม่ค่อยพลุกพล่านและรถไม่เยอะ ก็พอจะใช้วิธีนี้ได้ในบางจังหวะ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังรถที่ขับตามมาให้มากๆด้วยนะ

แต่ถ้าใครที่เลี้ยวไม่ทันผมแนะนำให้เลยไปกลับรถตามปกติ ก็จะสามารถวนมาเข้าโครงการได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่ว่างและบ้านพักอาศัยดั้งเดิม จึงมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งจากภาพเราจะเห็นว่าด้านในสุดจะเป็นพื้นที่พัฒนาในอนาคตใช่มั้ยครับ อันที่จริงก็คือส่วนหนึ่งในพื้นที่โครงการเดียวกันเนี่ยแหละ เพียงแต่ปัจจุบันเค้ายังไม่เปิดเผยข้อมูลที่แน่ชัดของผังออกมาให้เราได้ทราบกันนั่นเอง (จำนวนบ้าน 187 ยูนิตนี่จะนับรวมกับโซนด้านในไว้แล้วเรียบร้อยครับ)

  • ทิศเหนือ : ติดกับ บ้านพักอาศัย
  • ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่าง
  • ทิศตะวันออก : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนราชพฤกษ์ ที่ว่าง และบ้านพักอาศัย
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่าง และบ้านพักอาศัย

แน่นอนว่าด้านหน้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์แบบนี้ครับ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นถนนตัดใหม่ที่ปัจจุบันจะยังไม่ค่อยคึกคักหรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ดังนั้นจึงต้องอาศัยการขับรถไปใช้ยังห้างหรือโซนที่อยู่ข้างเคียงแทนนะครับ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ไทวัสดุ ราชพฤกษ์ ~ 5.1 km.
  • Robinson ราชพฤกษ์ ~ 5.2 km.
  • PurePlace ~ 9.1 km.
  • The Crystal PTT ~ 9.9 km.
  • Chic Republic ราชพฤกษ์ ~ 10.2 km.
  • Big C Extra บางใหญ่ ~ 12.7 km.
  • Indexlivingmall บางใหญ่ ~ 12.8 km.
  • ตลาดกลางบางใหญ่ ~ 13.1 km.
  • Central แจ้งวัฒนะ ~ 14.7 km.
  • IKEA บางใหญ่ ~ 15.2 km.
  • Central Westgate ~ 15.2 km.
  • The Square บางใหญ่ ~ 14.5 km.

โรงพยาบาล

  • รพ.ปากเกร็ด 2 ~ 3.2 km.
  • รพ.วิภาราม ปากเกร็ด ~ 12.5 km.
  • รพ.เวิล์ด เมดิคอลเซนเตอร์ ~ 14.4 km.

โรงเรียน

  • รร. สารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ ~ 4 km.
  • รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นนทบุรี ~ 5.6 km.
  • รร.นานาชาติ เด่นหล้า ~ 10.7 km.
  • รร.สวนกุหลาบ นนทบุรี ~ 13.2 km.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • คอนเซ็ปต์โครงการและอาคาร Clubhouse ได้แรงบันดาลใจมาจากปราสาทในเทพนิยาย มีความสวยงาม โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากเพื่อนบ้านในย่านเดียวกัน
  • มีการทำพื้นที่สีเขียวยาวต่อเนื่องตลอดถนน Main ทั่วทั้งโครงการ ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้สดชื่นและร่มรื่นมากขึ้น
  • มีการนำสายไฟลงใต้ดินให้ในโซนบ้านพักอาศัย ทำให้มีบรรยากาศที่ดูเรียบร้อยและสวยงาม
  • บ้านพักอาศัยส่วนใหญ่จะอยู่ภายในซอย และมีเพื่อนบ้านไม่เยอะ น้อยสุดคือ 2 – 4 หลัง มากสุดก็ 8 – 12 หลัง ทำให้มีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย

MONSANE Ratchapruek-Chaengwatthana (มนต์เสน่ห์ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ) ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 65-0-30.5 ไร่ และมีเพื่อนบ้าน 187 ยูนิต เป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรูที่มีคอนเซ็ปต์แบบ Modern Classic โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองในแถบยุโรป ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของปราสาทเทพนิยายที่สวยงาม และเราจะสามารถเห็นได้จากซุ้มประตูทางเข้า + อาคาร Clubhouse ที่อยู่บริเวณด้านหน้าเลยครับ เรียกได้ว่ามีความสวยงาม โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากเพื่อนบ้านในย่านมากๆเลยทีเดียว

ผังโครงการผมชอบตรงที่เค้ามีการกระจายพื้นที่สีเขียว เอาไว้บริเวณริมถนน Main ตลอดทั่วทั้งโครงการเลยครับ จึงทำให้บรรยากาศภายในจะมีความร่มรื่นและสดชื่นดีทีเดียว อีกทั้งยังช่วยให้บ้านในโซนต่างๆสามารถมาเดินเล่นพักผ่อน ในสวนที่ใกล้กับบ้านตัวเองได้สะดวกอีกด้วย โดยที่อาคาร Clubhouse จะเป็นส่วนต้อนรับที่อยู่ทางด้านหน้าสุด ซึ่งสามารถใช้รับรองแขกได้โดยที่ไม่ต้องพาเข้ามาในโครงการให้เสียความเป็นส่วนตัวเลยนั่นเองครับ

แต่จุดเด่นสำคัญที่ซ่อนเอาไว้ในการออกแบบผังนี้ก็คือ ทางโครงการจะใช้พื้นที่สีเขียวเหล่านี้ในการเดินสายและตั้งเสาไฟ ก่อนที่การแยกเข้าสู่ซอยของบ้านพักอาศัยต่างๆ ก็จะใช้การเดินสายไฟแบบลงใต้ดิน เพื่อให้ไม่มีสายไฟมาบดบังทัศนียภาพหน้าบ้านทุกหลัง ซึ่งบ้านในแต่ละซอยก็จะมียูนิตน้อยสุดอยู่ที่ 2 – 4 หลัง และสูงสุดแค่ 8 – 12 หลังเท่านั้น ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวดีทีเดียวครับ โดยจุดที่ผมมองว่าเป็นตำแหน่งบ้านที่น่าสนใจ และพิเศษในความคิดของผมจะมีอยู่ 3 โซนหลักๆคือ

  1. เป็นตำแหน่งบ้านใกล้ Clubhouse และทางเข้าโครงการ แต่ก็มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะอยู่ในซอยทางคู่ขนานกับถนนหลัก อีกทั้งยังไม่ต้องหันหน้าบ้านชนกับใครเลยอีกด้วยครับ ดังนั้นถ้าใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวและใช้งาน Faciliities เป็นประจำ ก็อาจลองพิจารณาบ้านในโซนนี้กันดูได้นะ
  2. เป็นตำแหน่งบ้านหน้าสวนที่อยู่ติดถนน Main ซึ่งจะหันหน้ารับวิวพื้นที่สีเขียวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ก็อาจแลกมากับการมีรถของเพื่อนบ้านขับผ่านไป-มาบ่อยๆครับ รวมถึงบ้านในตำแหน่งนี้ก็จะเป็นไซส์ใหญ่สุดด้วย แน่นอนว่ามูลค่าก็อาจต้องตามมาเยอะอยู่เหมือนกัน
  3. เป็นอีกตำแหน่งบ้านที่มีความเป็นส่วนตัวสูงกว่าซอยอื่นๆครับ เพราะเป็นซอยสั้นๆที่มีเพื่อนร่วมซอยเพียง 2 – 4 หลังเท่านั้น อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะเล็กๆอีกด้วย ซึ่งถ้าใครชอบความเงียบสงบไม่พลุกพล่านแบบนี้ ก็ลองมองเห็นบ้านในโซนนี้ดูได้ครับ

บรรยากาศของถนนหลักภายในโครงการครับ ซึ่งทางด้านขวามือจะเห็นพื้นที่สีเขียวที่ถูกจัดเป็นสวนเอาไว้ยาวตลอดทางเลย ทำให้บรรยากาศดูสดชื่นดีทีเดียว อีกทั้งเรายังสามารถมาเดิน/วิ่งออกกำลังกายที่สวนเหล่านี้ได้อีกด้วยนะ

และอย่างที่อธิบายในแปลนไปแล้วว่า ทางโครงการจะมีการเดินสายและตั้งเสาไฟขึ้นตามแนวสวนแบบนี้เท่านั้น โดยที่ภายในซอยพักอาศัยจะเปลี่ยนมาเป็นการนำสายไฟลงใต้ดินแทน เพื่อไม่ให้มีสายไฟมาบดบังทัศนียภาพหรือบังตัวบ้านนั่นเองครับ ซึ่งเรามักจะพบเห็นได้ในโครงการบ้านหรูๆเท่านั้น เพราะการทำจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงทีเดียว

หมายเหตุ : ปัจจุบันในวันที่เราเข้ามาถ่ายรีวิว 5/02/2567 พื้นที่ส่วนกลางต่างๆเค้ายังทำไม่เสร็จนะครับ คาดการณ์ว่าน่าจะเสร็จประมาณช่วงกลางปี ดังนั้นวันนี้เราจะมีเป็นภาพ Tive มาให้ดูกันไปก่อนนะ

ภาพบรรยากาศจำลองของอาคาร Clubhouse ที่ตั้งอยู่ติดกับซุ้มประตูทางเข้าบริเวณด้านหน้าโครงการ ซึ่งอย่างที่บอกครับว่าเค้าได้แรงบันดาลใจมาจากปราสาทในเทพนิยายของยุโรป ดังนั้นดีไซน์จึงให้อารมณ์เหมือนปราสาทเจ้าหญิงใน Disney มากๆเลยครับ ยิ่งถ้าใครที่มีลูกเล็กๆก็คิดว่าน้องๆหนูๆน่าจะชอบกันมากแน่ๆ

ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Lobby จะเป็นฝ้าเพดานสูง Double Volume ที่มีความโปร่งโล่งและดูโอ่อ่าดีทีเดียวครับ ภายในตกแต่งให้ดูมีความเรียบหรูและคลาสสิก สามารถใช้เป็นที่นั่งเล่นพักผ่อน หรือรับรองแขกที่มาหาได้สบายๆเลย

ภาพบรรยากาศจำลอง Co-Working Space และ Co-Living Area เป็นอีกหนึ่งจุดที่เราสามารถมานั่งเล่นพักผ่อน และมานั่งทำงานกันได้นะครับ โดยเค้าจะจัดเป็นมุมที่นั่งและกั้นห้องเอาไว้อย่างเป็นสัดส่วน ทำให้เป็นพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวน่าใช้งานมากขึ้น

ภาพบรรยากาศจำลอง Fitness ซึ่งภายในจะมีอุปกรณ์ต่างๆให้เราใช้งานครบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นโซนของ Cardio และ Weight Training สามารถมาใช้งานร่วมกันได้ 6 – 7 คนเลยทีเดียว

นอกจากนี้ภายนอกอาคารยังมีสระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น และสวนสาธารณะขนาดรวมกันกว่า 5 ไร่ให้ใช้งานด้วยนะครับ ซึ่งเราอาจต้องรอชมของจริงตอนสร้างเสร็จอีกทีว่าจะเป็นอย่างไรบ้างนะ หรือถ้าทางเราได้ภาพมาก็จะรีบมาอัปเดตให้ชมกันอีกครั้งนะครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • Co-Working Space
  • Co-Living Area
  • Fitness
  • Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 12.4 x 4.8 m.
  • Kids Pool ขนาด 2.8 x 4.8 m.
  • Activity Park
  • Paveway & Jogging Track
  • Seating Area
  • พื้นที่สวนภายในโครงการ 2 จุด ขนาดรวม 2,004.4 ตร.วา (หรือประมาณ 5 ไร่)
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 50 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 12 ม.
  • ระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดินในโซนพักอาศัยแบบ 3 เฟส (30/100)
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และเหล็กรางเลื่อนไฟฟ้า
  • เข้า-ออกด้วยระบบ LRT (อ่านป้ายทะเบียน)
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic & Shock Sensor + CCTV + Digital Door Lock ทุกหลัง
  • ติดตั้งนวัตกรรม Siamese Technology ภายในบ้านทุกหลัง ประกอบด้วย ระบบฟอกอากาศ (Air of Life 2 เครื่อง) / Solar Solution System (บ้านไซส์ S = 3.3 KW / บ้านไซส์ M = 4.9KW / บ้านไซส์ L = 9.9 KW) / EV Charger System
  • Panic Button แบบไร้สาย เฉพาะภายในห้องนอนผู้สูงอายุชั้น 1 ทุกหลัง

แบบบ้าน

Highlights :

  • บ้านเดี่ยวหน้ากว้าง มีห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างทุกหลัง พร้อมห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง สามารถรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ 3 Generation หรือคนที่ต้องการอยู่ร่วมกับพ่อแม่ไปยาวๆได้สบายๆ
  • ให้วัสดุมาดี ประตู-หน้าต่าง TOSTEM ทั้งหลัง อีกทั้งยังมีการเพิ่ม Siamese Technology เข้ามาภายในบ้าน ช่วยในเรื่องการอยู่อาศัยและประหยัดได้ดี
  • แยกโซนฟังก์ชันการใช้งานภายในได้เป็นสัดส่วนไม่รบกวนกัน โดยเฉพาะโซนแม่บ้านจะอยู่แยกออกมาด้านข้าง สามารถกั้นพื้นที่ให้เค้าทำงานอยู่ได้โดยไม่ต้องเข้ามาในบ้าน

โครงการ MONSANE Ratchapruek-Chaengwatthana (มนต์เสน่ห์ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ) มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบด้วยกันครับ โดยจะเป็นสไตล์ Modern Classic ที่ดูหรูหราแต่ก็ทันสมัย ส่วนตัวผมมองว่ามีความ Timeless นิดๆด้วยนะ ทำให้แม้ว่าจะผ่านไปนานกี่ปีก็คงไม่เบื่อกับบ้านสไตล์นี้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ได้ 3 Generation อีกด้วย โดยจะมีแบบบ้านดังนี้

  • BELLE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 67 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 317 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  • L’AMOUR บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 79 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 392 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
  • ENCHANTE’ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 97 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 2 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ

โดยบ้านแบรนด์ Monsane ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ตัว Top ของ Siamese Asset ที่ได้จับกลุ่มระดับ High – Luxury Class

รวมถึงยังมี Siamese Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยลดการใช้พลังงานและภาระค่าใช้จ่ายภายในบ้าน รวมถึงยังช่วยในเรื่องสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วยครับ ประกอบด้วย

  1. ระบบ Air of Life : เครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน ที่จะติดตั้งให้ 2 เครื่อง (เลือกตำแหน่งได้ตามต้องการ) ซึ่งช่วยเติมออกซิเจนภายในบ้าน พร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 ทำให้อากาศสดชื่นอยู่ตลอดเวลา
  2. ระบบ Solar Solution System : ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคาบ้าน ซึ่งเราสามารถใช้งานได้ในตอนกลางวัน ทำให้ช่วยลดภาระค่าไฟของบ้านลงได้ (บ้านไซส์ S = 3.3 KW / บ้านไซส์ M = 4.9KW / บ้านไซส์ L = 9.9 KW)

นอกจากนี้ Siamese Asset ยังเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีเจ้าของเดียวกับบริษัทับเหมาก่อสร้าง ‘ฤทธา’ อีกด้วยครับ ซึ่งผมคิดว่าหลายๆคนรู้จักชื่อนี้กันเป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเค้ามีผลงานก่อสร้างบ้าน คอนโด และอาคารสำคัญต่างๆมาแล้วทั่วประเทศนานกว่า 30 ปี ดังนั้นเรื่องงานโครงสร้างบ้านของ Siamese เรียกได้ว่าไว้ใจในเรื่องคุณภาพได้เลย

วัสดุและโครงสร้างบ้าน :

  • โครงสร้าง : Type S,M เป็นระบบคอนกรีตสำเร็จรูปทั้งหลัง, Type L โครงสร้างระบบคอนกรีตสำเร็จรูป ส่วนผนังเป็นระบบก่ออิฐฉาบปูน
  • พื้นที่จอดรถ : Slab on Beam ลงเสาเข็มสั้น 4 m. แบบปูพรมให้ทั้งผืน
  • พื้นที่ซักล้านหลังบ้าน : Slab on Ground เทพื้นคอนกรีตผิวเรียบปกติ
  • โครงสร้างบันได : คอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวไม้ประสาน
  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้อง Porcelain 60 x 60 cm. / ห้องนอนชั้นล่าง Vinyl Absorption Floor
  • พื้นชั้น 2 : ไม้พื้น Synthetic Wood หรือพื้น SPC (Stone Plastic Composite)
  • สุขภัณฑ์ : Cotto + American Standard และอ่างอาบน้ำ Hafele
  • ประตู-หน้าต่าง : ยี่ห้อ TOSTEM ทั้งหลัง กรอบเฟรมอลูมิเนียม ทำสี Powder Coat + กระจก Euro Grey หนา 5 mm.

  • BELLE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 67 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 317 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

เริ่มต้นด้วยบ้านไซส์ S หรือขนาดเริ่มต้นของโครงการกันครับ โดยจะเป็นบ้านหน้ากว้างที่สามารถอยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ 3 Generation ได้สบายๆเลย เพราะที่ชั้นล่างจะมีห้องนอนผู้สูงอายุรองรับไว้เรียบร้อย และด้านหน้าบ้านจะเป็นโถงบันได Double Volume เป็นโซนต้อนรับที่โอ่อ่ามากๆ ส่วนโซนพักผ่อนจะเน้นไปทางด้านหลังบ้านครับ ซึ่งจะเป็น Common Area ขนาดใหญ่ และได้ความเป็นส่วนตัวจากหน้าบ้านดีทีเดียว

แต่ที่ผมชอบอีกอย่างคือ เค้าแบ่งโซนทำงานและพักผ่อนของแม่บ้านให้แยกออกไปได้ชัดเจนดีทีเดียว ทำให้ไม่รบกวนการอยู่อาศัยของเจ้าของบ้านเลยครับ โดยหากเราปิดประตูในครัวหรือ Laundry แม่บ้านก็ยังสามารถทำงานของเค้าในฟังก์ชันเหล่านี้อีกด้านหนึ่งได้สบายๆ ทำให้ภายในบ้านจะไม่เสียความเป็นส่วนตัวเลยนั่นเองครับ

แปลนชั้น 2 จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้งานอยู่ตรงกลางบ้าน ซึ่งเราสามารถกั้นเป็นฟังก์ชันเพิ่มเติมได้ถ้าต้องการ ส่วนห้องนอนก็จะมีแยกเป็นส่วนตัวออกไป 3 ห้อง และมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด โดยที่ห้อง Master Bedroom จะได้ในส่วนของอ่างอาบน้ำเพิ่มขึ้นมาด้วยครับ ดังนั้นจึงเป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ มีลูก 1 – 2 คน รวมถึงอาจมีผู้สูงอายุอย่างคุณพ่อคุณแม่อาศัยอยู่ด้วยก็ได้

ขอพามาดูประตูรั้วของบ้านเปล่ามาตรฐานกันก่อนนะครับ ซึ่งเราจะได้เป็นเหล็กรางเลื่อนแบบ 2 ตอนที่สามารถใช้งานได้สะดวก รวมถึงเราอาจติดตั้งเป็นประตูอัตโนมัติเพิ่มเติมได้ เพราะทางโครงการได้เตรียมงานระบบไฟฟ้ารองรับเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วครับ

ซ้ายมือจะเป็นตู้จดหมายและถังขยะจาก DOS ที่สามารถเปิดใช้งานได้สะดวกทั้ง 2 ฝั่งเลยครับ โดยที่ตู้จดหมายนี้จะมีช่องให้ใส่พัสดุได้ด้วยนะ

และข้างๆกันจะเป็นตู้ไฟครับ ซึ่งอย่างที่บอกว่าภายในโซนพักอาศัยจะเป็นการเดินสายไฟลงใต้ดิน ดังนั้นเราก็สามารถตรวจดูมิเตอร์ไฟได้จากภายในตู้นี้เลย

ส่วนพื้นที่สวนข้างบ้านก็จะได้เป็นการปูพื้นหญ้า และรั้วต้นโมกเป็นมาตรฐานแบบนี้ครับ ซึ่งเราก็สามารถปลูกต้นไม้จัดสวนในแบบที่ชอบเพิ่มเติมได้ตามต้องการ และขนาดสวนก็จะขึ้นอยู่กับแปลงที่ดินบ้าน โดยถ้าเป็นบ้านหลังใหญ่แปลงมุมก็จะมีพื้นที่เยอะหน่อย

ที่จอดรถในร่มกว้าง 7.55 m. สามารถจอดรถได้ 3 คันสบายๆ โดยจะเป็นโครงสร้าง Slab on Beam ลงเสาเข็มสั้น 4 m. แบบปูพรมให้ จึงมีความแข็งแรงและไม่พื้นเกิดการทรุดตัวได้ง่าย พร้อมปูพื้นด้วยกระเบื้องลาย Concrete Stamp สวยงามแบบนี้เลยครับ และนอกจากนี้ยังมีการติดตั้งฟังก์ชันอื่นๆ ประกอบด้วย

  • ห้องเก็บของอเนกประสงค์ พร้อมประตูบานปิดเรียบร้อย
  • Junction EV Charger สำหรับติดตั้งให้รถยนต์ไฟฟ้า หรือถ้าใครสนใจเครื่องที่เป็นเทคโนโลยีของ Siamese แบบในบ้านตัวอย่างเลยก็ลองสอบถามเพิ่มเติมดูได้ครับ
  • CCTV Camera 1 ตัว
  • Alarm System ตัวส่งสัญญาณความช่วยเหลือ เชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน

และบริเวณนี้จะเป็นทางเข้ารองของบ้านจากที่จอดรถ ซึ่งจะเป็นประตูบานปิดจาก TOSTEM ที่ติดตั้งมาให้พร้อม Digital Door Lock แบบนี้เลยครับ โดยจะมีชานพักขนาดใหญ่กว้าง 2 x 1.6 m. ให้เราสามารถวางตู้รองเท้าหรือวางม้านั่งได้สบายๆ

ส่วนทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่ทางด้านหน้า ซึ่งตรงนี้จะมีทางลาดสำหรับลากรถเข็นด้วยนะครับ กว้างประมาณ 90 cm. สามารถใช้งานขึ้น-ลงของรถวีลแชร์ได้สะดวกเลย

ทางเข้าหลักของบ้านเมื่อมองด้านหน้าจะเป็นซุ้มประตูทรง Arch โค้งขนาดใหญ่ ซึ่งให้กลิ่นอายของความเป็นยุโรปและดูหรูหรา อีกทั้งยังได้มีการเก็บลวดลายและขอบบัวมาครบถ้วนดีทีเดียวครับ แต่ก็จะมีการลดทอนรายละเอียดต่างๆลงไป เพื่อให้มีความทันสมัยมากขึ้น

และสิ่งที่ผมชอบอีกอย่างคือ ลวดลายแนวขวางบนผนัง ที่จะมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้รอยร้าวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตลามไปทั้งผืน ทำให้ปลอดภัยต่อตัวโครงสร้าง และช่างก็สามารถ Renovate ได้ง่ายมากขึ้นด้วยครับ

ประตูทางเข้าบ้านเป็นของ TOSTEM โดยหน้าบานเป็นอลูมิเนียมลายไม้สวยงาม และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน รวมถึงยังติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor มาให้เพื่อความปลอดภัยด้วยครับ

นอกจากนี้ยังสามารถเปิดขยายด้านข้างออกเพิ่มเติม ทำให้กว้างได้ถึง 1.35 m. สามารถขนพวกของหรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆเข้าบ้านได้สะดวกเลยครับ ซึ่งบ้านใครมีคนที่ใช้รถเข็นอาศัยอยู่ด้วย ก็อาจทำทางลาดเล็กๆตรงขอบประตูล่างเพิ่มเติม เพื่อที่จะได้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้นก็ได้ครับ

เมื่อเข้ามาด้านในเราจะเจอกับโถงต้อนรับขนาดใหญ่แบบฝ้าเพดานสูง Double Volume 6.6 m. จึงทำให้มีความโปร่งและโออ่าดูหรูหราสมราคาบ้านดีทีเดียว

และพื้นที่ด้านข้างบันไดเราก็สามารถจัดเป็นมุมนั่งพักคอย หรือนั่งใส่รองเท้าตรงนี้ได้อีกด้วย แต่ถ้าจะเอาแบบให้หรูขั้นสุด ก็อาจจัด Piano สักหลังมาตั้งโชว์ไปเลยก็ได้ครับ

มองขึ้นไปด้านบนก็จะสามารถมองเชื่อมต่อไปยังโถงบันไดชั้น 2 ได้ แถมยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ที่ช่วยทำให้มีความสว่างด้วยครับ โดยเราสามารถติดตั้ง Chandelier ด้วยๆเพิ่มเติมได้สบายๆ

ส่วนบริเวณด้านข้างของประตูก็จะมีช่องผนังเล็กที่เว้าเข้าไป ซึ่งเราสามารถทำเป็นตู้โชว์หรือ Built-in ตู้รองเท้าซ่อนเอาไว้ตรงนี้ได้นะครับ เพื่อที่เวลาเข้า-ออกบ้านก็จะสามารถหยิบใช้ได้สะดวก และเก็บได้เยอะเลยด้วย

ถัดเข้ามาในบ้านจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถแบ่งพื้นที่เป็นโซนได้ตามต้องการ

อย่างบ้านหลังนี้จะจัดให้พื้นที่ทางซ้ายมือเป็น Living Area เอาไว้สำหรับดูหนังพักผ่อนกันในครอบครัว ซึ่งจะอยู่ติดกับช่องแสงของสวนด้านข้างและด้านหลังบ้าน ทำให้มีความสว่างโปร่งโล่ง โดยเราจะสามารถเปิดม่านชมวิวสวนด้านนอกได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะเสียความเป็นส่วนตัวเลยนั่นเอง (ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่ต่างจากแบบบ้านหลังอื่นๆ)

ประตูหน้าต่างของบ้านทั้งหลังจะเป็นของ TOSTEM ทั้งหมดเลย กรอบเป็นอลูมิเนียม Powder Coat + กระจก Euro Grey ที่ช่วยป้องกันแสงกับความร้อนได้ดี ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานของเครื่องปรับอากาศ พร้อมติดตั้ง Magnetic & Shock Sensor มาให้ทุกจุดเพื่อความปลอดภัยด้วยครับ

ติดกันจะเป็นห้องนอนชั้นล่างที่ถูกกั้นด้วยผนังทึบแยกออกไปเป็นส่วนตัว

และภายในห้องจะมีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานด้วยครับ

ซึ่งห้องน้ำนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีขนาดกว้าง 1.75 x 2.1 m. ให้สามารถใช้รถเข็นเข้ามาได้สะดวก

นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ไม่มีส่วนต่างระดับ แต่จะใช้เป็นรางน้ำแบบฝังในพื้นแทน เพื่อทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้นแบบนี้ครับ

ส่วนบนผนังจะมีการติดตั้งราวจับต่างๆ และมีเก้าอี้ที่สามารถพับเก็บได้ติดมาให้แบบนี้เลยครับ ซึ่งเป็นการออกแบบตามหลัก Universal Design

โดยถ้าครอบครัวของใครมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว และไม่ต้องเสียเวลาทำเพิ่มเองให้เหนื่อยทีหลังครับ

ภายในห้องนอนชั้นล่างจะมีขนาด 3.45 x 3.1 m. สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตเพื่อทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้สบายๆ หรือจะจัดเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆแบบบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้

นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุปูพื้นเป็น Vinyl Absorption Floor หรือพื้นที่ช่วยลดแรงกระแทก ซึ่งเหมาะมากสำหรับการใช้งานของผู้สูงอายุหรือเด็ก เพื่อช่วยลดการบาดเจ็บของอุบัติเหตุครับ

รวมถึงประตูกระจกบานเลื่อนด้านหน้ายังสามารถเปิดเชื่อมต่อไปยังสวนภายนอกได้อีกด้วย ซึ่งเราก็สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน เพื่อให้เปลี่ยนบรรยากาศได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบนี้ก็ได้ครับ

อีกด้านหนึ่งของตัวบ้านจะเป็นฟังก์ชันของโต๊ะทานอาหาร และยังสามารถทำเป็น Pantry แบบครัวฝรั่งได้อีกด้วย ซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆนะครับ แต่ก็มีการทำท่องานระบบและ Junction เผื่อไว้ให้แล้ว

รวมถึงฟังก์ชันใช้งานอื่นๆ ก็จะมีโถงทางเดินแยกออกไปเป็นส่วนตัว เช่น ทางขวามือด้านหน้านี้จะเป็นห้องเก็บของใต้บันได และประตูที่เข้ามาจากที่จอดรถครับ ส่วนด้านในห้องอื่นๆก็จะประกอบด้วย ห้องน้ำ ห้องซักรีด และห้องครัว

เริ่มที่ห้องน้ำนี้จะเป็น Powder Room ที่จะไม่มีส่วนอาบน้ำ โดยจะใช้งานร่วมกันของพื้นที่ชั้น 1 และเป็นห้องน้ำแขก ภายในกว้าง 1.45 x 1.9 m. สามารถใช้งานได้สะดวก มาพร้อมกับสุขภัณฑ์จาก Cotto แถมยังได้โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติแบบนี้อีกด้วย

ติดกันจะเป็นห้องซักรีดหรือ Laundry ภายในกว้าง 2.2 x 2.3 m. และเป็นพื้นที่ลดระดับลงมาจากพื้นบ้านปกติเล็กน้อย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำที่จะรั่วซึมหรือไหลเข้าสู่ตัวบ้านเลยครับ สามารถล้างทำความสะอาดพื้นได้เต็มที่ รวมถึงยังมีงานระบบต่างๆไว้รองรับ สำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้พร้อมใช้งานแบบนี้เลย

อีกหนึ่งห้องที่อยู่ติดกันจะเป็นครัวปิด ภายในกว้าง 2.45 x 2.8 m. ของจริงจะเป็นห้องโล่งๆที่มาพร้อมท่องานระบบต่างๆนะครับ ซึ่งเราจะต้อง Built-in เพิ่มเติมเองตามต้องการ รวมถึงยังมีช่องหน้าต่างและประตูที่สามารถเปิดเชื่อมต่อสู่ภายนอก สามารถช่วยระบายอากาศได้ดีอีกด้วย

ด้านหลังบ้านจะเป็นลานซักล้างแบบกลางแจ้ง ที่ของจริงก็จะมีการเทพื้นคอนกรีตแบบ Slab on Ground มาให้ครับ ซึ่งเราสามารถทำเป็นมุมอเนกประสงค์อื่นๆเพิ่มเติมได้ รวมถึงยังสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังห้องแม่บ้านที่อยู่ด้านข้างได้อีกด้วย

ห้องแม่บ้านกว้าง 1.7 x 2.2 m. สามารถวางเตียง 3.5 ฟุต + ตู้เสื้อผ้าใบเล็กๆได้แบบพอดีๆ มาพร้อมกับห้องน้ำให้ใช้งานส่วนตัวด้วย ซึ่งถ้าใครที่อาจไม่ได้มีแม่บ้านอาศัยอยู่ด้วย ก็สามารถปรับเป็นห้องเก็บของไปก็ได้นะครับ

กลับมาที่โถงบันไดหน้าบ้านอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งบันไดนี้จะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความแข็งแรงทนทานและไม่มีเสียงดังรบกวนเวลาใช้งาน ปิดผิวด้วยไม้ประสานลายธรรมชาติ และราวจับก็มีการทำลวดลายของเหล็กให้มีความสวยงามแบบนี้อีกด้วยครับ

ขึ้นมาชั้นบนเราจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ที่อยู่หน้าโถงบันได ซึ่งจะมีขนาดกว้าง 4. x3.7 m. สามารถทำเป็นพื้นที่ Family Area ที่เป็นส่วนตัวของครอบครัวได้ หรือเราอาจกั้นผนังทำเป็นส่วนตัวเพิ่มเติมก็ได้ครับ

ซ้ายมือเป็นห้อง Master Bedroom ที่มีขนาดใหญ่กว้าง 6.2 x 3.7 m. สามารถแบ่งโซนการใช้งานได้ตามต้องการ อย่างโซนด้านหน้าบ้านนี้ก็เหมาะที่จะวางเตียงนอนใกล้ช่องแสงแบบนี้เลยครับ

โดยข้างเตียงจะเป็นระเบียงที่มีขนาด 3.25 x 0.9 m. สามารถออกมาใช้งานชมวิว หรือยืนสูดอากาศบริสุทธิ์ได้แบบนี้ หรือจะปลูกต้นไม้ในกระถางเพิ่มก็ได้

แต่ที่ผมชอบมากๆก็คือ เค้าจะมีการเซาะร่องทำเป็นรางน้ำขนาดใหญ่ ช่วยทำให้ไม่มีน้ำขังที่พื้นตอนฝนตกเลยนั่นเองครับ (ปกติโครงการทั่วไปจะมีเป็นท่อน้ำเฉยๆมาให้เท่านั้น)

อีกด้านหนึ่งของห้องก็สามารถจัดเป็น Walk-in Closet หน้าห้องน้ำได้แบบนี้ครับ

ส่วนภายในห้องน้ำก็จะมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวจาก Hafele ตั้งโดดเด่นอยู่กลางห้องแบบนี้เลยครับ ทำให้เรามีตัวเลือกในการอาบน้ำได้ว่าจะอาบแบบปกติ หรือจะแช่น้ำผ่อนคลายสบายๆก็ได้ ส่วนช่องหน้าต่างที่มีขนาดใหญ่ก็จะทำเป็นกระจกฝ้าเพื่อความเป็นส่วนตัวมาให้แล้วเรียบร้อย

ด้านขวามือเป็นอ่างล้างหน้าแบบ His and Her ที่สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนแบบสามีภรรยาได้สบายๆ และด้านล่างก็จะ Built-in ตู้เก็บของมาให้แบบนี้เลยครับ

อีกด้านหนึ่งจะเป็นโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก Cotto พร้อมกับพื้นที่อาบน้ำกว้าง 1.2 x 0.9 m. ให้ใช้งานพอดีๆ โดยที่ของจริงจะไม่มีฉากกั้นอาบน้ำนะครับ เราจะต้องติดตั้งเพิ่มเติมเอง แต่เราจะได้เป็น Hand Shower + Ran Shower แบบนี้เลย

ต่อไปเราจะมาดูห้องนอนเล็กที่อยู่อีกด้านหนึ่งของบ้านกันต่อครับ

เริ่มจากห้องที่อยู่ทางโซนหน้าบ้านจะมีขนาด 5 x 6.3 m. เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่รองมาจาก Master Bedroom จึงมีพื้นที่รอบเตียงเยอะให้จัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์นั่งเล่นอื่นๆเพิ่มเติมได้ด้วย

แต่จุดเด่นจริงๆก็คือ ช่องแสงบริเวณหน้าบ้านที่มีมาให้ถึง 3 ช่อง โดยตรงกลางจะเป็นระเบียงขนาด 1.7 x 0.9 m. ที่พอจะเปิดออกไปใช้งานยืนสูดอากาศได้พอดีๆครับ

ส่วนระเบียงอีก 2 ด้านจะเป็นราวเหล็กสำหรับตกแต่งและปลูกพวกไม้กระถางครับ แต่ถ้าเราวางกระถางหรือปลูกต้นไม้ด้านนอกแล้ว อาจไม่สามารถเปิดประตูได้นะครับ เพราะจะติดพอดีเลย (อาจต้องเซอร์วิสหรือรดน้ำ จากระเบียงหลักตรงกลางแทน)

อีกด้านหนึ่งของห้องจะสามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้แบบนี้ครับ ซึ่งตำแหน่งก็จะอยู่ตรงประตูหน้าห้องพอดี และใกล้ห้องน้ำใช้งานสะดวก (ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง ไม่ได้กั้นผนังมาให้เหมือนบ้านตัวอย่างนะครับ)

ภายในห้องน้ำมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนเหมือนห้องน้ำทั่วไป และได้สุขภัณฑ์จาก Cotto เป็นมาตรฐาน แต่ที่ผมชอบห้องน้ำของโครงการนี้ก็คือ เค้าจะติดตั้งพัดลมดูดอากาศเล็กๆไว้คู่กับหน้าต่างแบบนี้ทุกห้องเลยครับ จึงทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีแม้จะไม่เปิดหน้าต่าง และไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นหรือแมลงที่จะเข้ามาด้วยนั่นเอง

พื้นที่ส่วนแห้งกว้าง 1.5 x 1.8 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.5 x 0.8 m. สามารถใช้งานได้สะดวก และต้องติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเอง นอกจากนี้ในห้องนอนเล็กเราจะได้เป็นโถสุขภัณฑ์แบบปกตินะครับ

ติดกันจะเป็นห้องนอนที่อยู่โซนหลังบ้าน มีขนาด 4.3 x 4.5 m. ซึ่งถ้าใครที่มีลูกคนเดียวก็อาจปรับห้องนี้เป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้นะครับ เช่น ห้องทำงาน ห้องพระ หรือห้องดูหนัง เป็นต้น

รวมถึงยังมีห้องน้ำให้ใช้งานส่วนตัวด้วย ซึ่งฟังก์ชันก็จะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ

  • L’AMOUR บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 79 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 392 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ

หลังนี้จะเป็นบ้านไซส์ M หรือขนาดกลางของโครงการครับ แน่นอนว่าตัวบ้านจะมีหน้ากว้างที่เพิ่มขึ้น และยังสามารถจอดรถได้เยอะขึ้นกลายเป็น 4 คันเลย จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่พ่อแม่ลูกมีรถขับกันคนละคันได้สบายๆเลยครับ

แปลนชั้น 1 จะมีความน่าสนใจก็คือ Living Area จะเปลี่ยนมาอยู่ทางฝั่งด้านหน้าบ้านแทน และมีพื้นที่เชื่อมต่อกับโถงทางเข้า Double Volume จึงทำให้เวลาเข้ามาภายในบ้านจะรู้สึกถึงความกว้างขวางโปร่งโล่งมากๆครับ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันพิเศษอย่าง Glass House เพิ่มเข้ามาเป็น Gimmick น่ารักๆให้ใช้งานด้วยนะ ส่วนฟังก์ชันอื่นๆที่เหลือก็จะคล้ายกับบ้านไซส์ S เลยครับ

แปลนชั้น 2 มีความพิเศษเพิ่มขึ้นคือ เราจะได้ Double Grand Master Bedroom มาถึง 2 ห้องด้วยกัน ซึ่งภายในจะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่ และยังมีอ่างอาบน้ำให้ใช้งานทั้งคู่อีกด้วย จึงเหมาะกับครอบครัวที่รุ่นลูกก็สามารถอยู่อาศัยได้ จนถึงวัยที่แต่งงานมีครอบครัวได้เลยนั่นเองครับ

สำหรับที่จอดรถของบ้านหลังนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงใหญ่ๆ กว้างช่องละ 5 m. สามารถจอดรวมกันได้ 4 คันพอดีๆ ส่วนงานโครงสร้างและวัสดุที่เหลือ ก็จะเหมือนกับบ้านตัวอย่างก่อนหน้านี้เลยครับ

รวมถึงทางเข้าหลักของบ้านเองก็เช่นกัน เราจะได้เป็นซุ้มทางเข้า Arch โค้งขนาดใหญ่แบบนี้เลย เรียกว่าเป็น Signature ของบ้านที่ขาดไม่ได้ของโครงการนี้ ทำให้ดูหรูหราและโอ่อ่ามากขึ้น

เมื่อเข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับโถงกลางหลักแบบ Double Volume ที่คราวนี้เราจะรู้สึกได้ว่าจะมีความใหญ่ กว้างขวาง และโปร่งโล่งมากขึ้นเยอะเลยใช่มั้ยครับ นั่นเป็นเพราะด้านข้างจะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับ Living Area นั่นเอง

ส่วนภายใน Living Area ก็มีขนาดใหญ่จนเราสามารถใช้ขุดโซฟารูปตัว L แบบนี้ได้สบายๆเลยครับ หลักๆแล้วก็เอาไว้ใช้รับแขกหรือใช้นั่งเล่นดูทีวีของครอบครัวได้นั่นเอง อีกทั้งยังมีความโปร่งโล่งจากช่องแสงใหญ่ถึง 2 ด้านอีกด้วย

ทางด้านขวามือจะเป็นลักษณะของ Glass House ยื่นออกไปนอกตัวบ้าน ซึ่งเป็น Gimmick น่ารักๆ ที่ทางโครงการเพิ่มเข้ามาในบ้านไซส์ M และ L โดยจะมีขนาดพื้นที่กว้าง 1 x 2.85 m. สามารถทำเป็นมุมอเนกประสงค์ส่วนตัวได้ครับ

ช่องแสงอีกด้านหนึ่งจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ที่สามารถมองเห็นและเปิดออกเชื่อมต่อไปสู่พื้นที่สีเขียวข้างบ้านได้ครับ ซึ่งเราก็สามารถจัดสวนในแบบที่ต้องการได้เลย ไม่ว่าจะปลูกต้นไม้ ดอกไม้ หรือจะทำเป็นน้ำพุก็ได้

ถัดเข้ามาในบ้านจะเป็น Common Area ที่ประกอบด้วยพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่ และยังแบ่งเป็นมุม Pantry ได้อีกด้วย

ติดกันจะเป็นห้องนอนชั้นล่างครับ ซึ่งก็ถูกเซ็ตมาให้เหมาะกับผู้สูงอายุ โดยแน่นอนว่าห้องน้ำก็จะมีราวจับต่างๆมาให้ครบเหมือนเดิมเลย

ส่วนพื้นที่วางเตียงนอนจะมีขนาด 4 x 2.5 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้สบายๆ หรือจะปรับเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้ตามต้องการครับ

รวมถึงยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ ที่เราสามารถเปิดประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมต่อไปยังสวนหลังบ้านได้ด้วย จึงทำให้การใช้งานของห้องมีค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวที่ดีทีเดียว

อีกด้านของบ้านก็จะมีโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังฟังก์ชันใช้งานอื่นๆ ซึ่งจะอยู่แยกออกไปเป็นสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได ประตูพื้นที่จอดรถ ห้องซักรีด ห้องครัว และห้องน้ำ

โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาจากบ้านไซส์เล็กก็คือ พื้นที่อเนกประสงค์เล็กๆที่จะเว้าเข้าไปในผนัง มีขนาดประมาณ 2.6 x 1.3 m. สามารถ Built-in ทำเป็นชั้นเก็บรองเท้าหรือกระเป๋าขนาดใหญ่ได้แบบนี้เลยครับ

ติดกันจะเป็น Powder Room หรือห้องน้ำรับแขกที่ใช้งานร่วมกันภายในชั้นล่าง มีความกว้าง 2.6 x 1.45 m. สามารถใช้งานได้สะดวก มาพร้อมกับโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติจาก Cotto เหมือนเดิม

ถัดมาจะเป็นห้องครัวปิดที่ภายในมีขนาดกว้าง 3 x 3.8 m. ซึ่งของจริงจะเป็นห้องโล่งๆที่เราสามารถ Built-in เคาน์เตอร์ครัวเพิ่มเติมได้เองตามต้องการ

โดยจุดเด่นก็คือจะมีช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ที่ให้แสงสว่าง และสามารถเปิดระบายอากาศได้เต็มที่มากขึ้น รวมถึงยังมีประตูเปิดออกสู่ภายนอก และมีพื้นที่เชื่อมต่อกับ Laundry อีกด้วยครับ

สำหรับ Laundry จะมีขนาดกว้าง 2.2 x 2 m. เท่ากับบ้านหลังอื่นๆเลยครับ โดยนอกจากจะวางพวกเครื่องซักผ้าหรือเครื่องอบผ้าแล้ว เรายังอาจทำเป็นมุมรีดผ้าและมุมแขวนผ้าเล็กๆเพิ่มก็ได้นะ

เปิดประตูออกมาด้านนอกที่หากเป็นจากในครัว เราจะเจอกับลานซักล้างภายนอก แต่ถ้าเปิดออกมาจากทาง Laundry เราจะเจอกับห้องแม่บ้านแบบนี้ครับ

กลับมาที่โถงทางเข้าบ้านหลักอีกครั้ง ซึ่งเราจะขึ้นไปดูบนชั้น 2 กันต่อเลยครับ

ด้านบนเราจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์หน้าโถงบันได มีขนาดกว้าง 2.9 x 4.6 m. สามารถจัดเป็นมุม Family Area หรือจะกั้นห้องให้เป็นสัดส่วนเพิ่มเติมก็ได้ เช่น ห้องทำงาน หรือห้องพระ เป็นต้น

ขวามือจะเป็น Master Bedroom ที่ 2 ซึ่งภายในมีขนาดใหญ่ 4 x 5.9 m. มาพร้อมกับระเบียงปลูกต้นไม้หน้าบ้านเล็กๆแบบนี้ และเหมาะที่จะใช้เป็นห้องนอนของลูกคนโต ที่สามารถอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ได้จนถึงวัยแต่งงานได้สบายๆเลยครับ

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet หน้าห้องน้ำได้แบบนี้เลย

ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันอ่างอาบน้ำแบบลอยตัว และแยกพื้นที่ Shower มาให้เหมือนของ Master Bedroom หลักเลยครับ

โดยสิ่งที่แตกต่างจาก Master Bedroom หลักมีเพียงนิดเดียวก็คือ เราจะได้อ่างล้างหน้าแค่อ่างเดียวเท่านั้น ส่วนโถสุขถันฑ์อัติโนมัติของ Cotto และ Rain Srower ยังมีครบ เพียงแต่เราจะต้องติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเอง และมีพื้นที่ยืนอาบกว้าง 1 x 1.2 m. ให้ใช้งานพอดีๆ

ถัดมาเราจะไปดูห้องนอนที่เหลืออีกด้านของบ้านกันต่อครับ

เริ่มจากห้อง Grand Master Bedroom ที่เป็นห้องหลักกันก่อน ซึ่งจะอยู่ทางโซนหน้าบ้าน และมีขนาดใหญ่ที่กว้างถึง 4.5 x 8.9 m. สามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วนได้ตามต้องการ อย่างบริเวณหน้าห้องนี้ก็เหมาะที่จะวางเตียงนอนและทำพื้นที่นั่งเล่นได้ครับ

ส่วนช่องแสงที่อยู่ด้านข้างทั้ง 3 จะสามารถเปิดเชื่อมต่อกับระเบียงขนาดใหญ่ด้านนอกได้เหมือนกันเลย มีขนาดกว้าง 5.65 x 1.5 m. สามารถออกมาใช้งานนั่งเล่นได้สบายๆ

แต่ห้องนอนจะไม่เสียความเป็นส่วนตัวเลยครับ เพราะด้วยช่องแสงที่มีลวดลายขนาดไม่ใหญ่มาก + กระจก Euro Grey สีค่อนข้างทึบ ก็ช่วยพรางสายตาได้เป็นอย่างดีทีเดียว

และอีกด้านหนึ่งของห้องเราสามารถจัดเป็น Walk-in Closet หน้าห้องน้ำแบบนี้ได้ครับ ซึ่งพื้นที่นี้ก็มีช่องแสงเป็นของตัวเองเหมือนกัน ทำให้ช่วยในเรื่องการแต่งตัว/แต่งหน้าได้ดีเลยทีเดียว

ภายในห้องน้ำก็มีขนาดใหญ่มาก แน่นอนว่ามาพร้อมอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวให้ใช้งานครบ

โดยสิ่งที่เพิ่มเติมมาจากห้องก่อนหน้านี้ก็คือ เราจะได้อ่างล้างหน้าแบบ His and Her ทำให้สามารถใช้งานพร้อมกัน 2 คนสามีภรรยาได้สบายๆ ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะกว้าง  1.5 x 1 m. สามารถใช้งานได้สบาย แต่อาจต้องติดฉากกั้นกระจกเพิ่มเติมเองนะครับ

สุดท้ายคือห้องนอนเล็กสุดที่อยู่ทางโซนด้านหลังบ้าน แต่ภายในก็มีขนาดใหญ่มาก กว้างประมาณ 4.7 x 5 m. ซึ่งหากใครที่มีลูกคนเดียวและต้องการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ต่อไปยาวๆ เราก็สามารถใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนของรุ่นหลานได้นะครับ

ส่วนห้องน้ำในตัวก็มีให้ใช้งาน แบ่งแยกโซนกันชัดเจนเป็นมาตรฐาน และได้พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.4 x 1.3 m. ให้ใช้งานสบายๆ แต่จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของห้องนี้ก็คือ เราจะได้ช่องหน้าต่าง 2 ด้าน ทำให้สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้จริงจังเลยครับ

  • ENCHANTE’ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 97 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 2 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ

เป็นบ้านไซส์ L หรือบ้านหลังใหญ่สุด มีความพิเศษกว่าบ้านหลังอื่นๆตั้งแต่เรื่องของโครงสร้างบ้าน ที่จะได้ระบบ Conventional หรือการก่ออิฐมวลเบา (ไม่ได้เป็น Precast เหมือนไซส์ S และ M) จึงเป็นบ้านที่มีความยืดหยุ่น และสามารถทุบ/เจาะ/ต่อเติมผนังได้ง่ายตามต้องการ

สำหรับฟังก์ชันบ้านมีความใกล้เคียงกับบ้านไซส์ M ก่อนหน้านี้เลยครับ เพียงแต่เราจะได้หน้ากว้างและพื้นที่ใช้สอยภายในที่ใหญ่มากขึ้นเยอะเลย รวมถึงยังได้ห้องแม่บ้านเพิ่มเป็น 2 ห้อง ทำให้เหมาะกับครอบครัวที่จำเป็นต้องมีแม่บ้านอยู่ประจำจริงๆ สามารถอยู่เป็นครอบครัวหรือแยกกันอยู่เป็นส่วนตัวก็ได้ ยิ่งบางบ้านอาจต้องมีพี่เลี้ยงคอยดูแลเด็ก/ผู้สูงอายุตลอด 24 ชม. ก็ยิ่งเหมาะเลยครับ

แปลนชั้น 2 แน่นอนว่าเราจะได้ Grand Master Bedroom 2 ห้องเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมมาคือ เราจะมีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง จึงสามารถรองรับครอบครัวที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นได้สบายๆครับ โดยบรรยากาศของบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร ก็สามารถคลิกชมภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลย

Image 1/13

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ

ราคา

MONSANE Ratchapruek-Chaengwatthana ราคา ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567

  • BELLE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 67 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 317 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท
  • L’AMOUR บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 79 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 392 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 17 ล้านบาท
  • ENCHANTE’ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 97 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 470 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 2 พื้นที่นั่งเล่น / 2 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 21 ล้านบาท
  • ค่าจอง n/a บาท
  • ค่าทำสัญญา n/a บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 90,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.วา/เดือน (เก็บล่วงหน้า 1 ปี) + กองทุนรายเดือน 5 บาท/ตร.วา/เดือน
  • ค่ากองทุน 400 บาท/ตร.วา (เก็บครั้งเดียวในวันโอน)
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ ซึ่งเป็นโซนเกิดใหม่ที่ความอุดมสมบูรณ์ปัจจุบันยังมีไม่มากนัก แต่ก็มีโซนใกล้เคียงให้พึ่งพิงเยอะอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นโซนราชพฤกษ์ ศรีสมาน แจ้งวัฒนะ และบางใหญ่ จึงเหมาะกับคนที่ทำงานหรือเน้นการใช้ชีวิตอยู่โซนเหล่านี้เป็นหลัก รวมถึงยังมีถนนกาญจนาภิเษกให้ใช้อยู่ไม่ไกลด้วยครับ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ด้านหน้ามีซุ้มประตูทางเข้าโครงการที่เข้าออกด้วยระบบ LRT (อ่านป้ายทะเบียน) พร้อมทั้งยังมีกล้อง CCTV และพี่ยามดูแลตลอด 24 ชม. ส่วนภายในตัวบ้านก็จะมีทั้ง Magnetic & Shock Sensor ที่ติดอยู่ตามประตู-หน้าต่างทุกหลัง พร้อมกล้อง CCTV อีก 4 จุด และมี Digital Doorlock ติดมาให้ด้วยครับ เรียกได้ว่าจัดเต็มมาให้ตามมาตรฐานระดับราคานี้เลย

การออกแบบโครงการ : มีเพื่อนบ้านทั้งหมด 187 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่และมียูนิตเยอะพอสมควรเลยสำหรับบ้าน Segment นี้ ส่วนตัวผมชอบไอเดียการวางผังให้มีถนน Mainแค่ด้านเดียว และทำเป็นพื้นที่สีเขียวตลอดแนวทั้งโครงการ ทำให้บรรยากาศมีความสดชื่นและร่มรื่นดีทีเดียวครับ

ส่วนตัวบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่จะอยู่แยกเข้าไปภายในซอย จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัว โดยซอยที่น้อยที่สุดจะมีเพื่อนบ้านเพียง 2 – 4 หลังเท่านั้น และซอยที่เยอะที่สุดก็แค่ 8 – 12 หลัง ซึ่งใครที่ชอบความเงียบสงบไม่พลุกพล่านก็มีหลายโซนให้เลือกอยู่นะ หรือถ้าใครที่อยากได้บ้านติดถนนและอยู่หน้าสวนเลยก็มีให้เลือกเยอะเช่นกัน อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะครับ

การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : เป็นบ้านเดี่ยวหน้ากว้างที่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ สามารถอยู่ร่วมกันได้แบบ 3 Generation ได้สบายๆเลยครับ เพราะเค้าจะมีห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่างทุกแบบ ซึ่งห้องน้ำก็ถูกจัดมาให้มีราวจับหรือไม่มี Step ที่พื้นตามหลัก Universal Design เลย อีกทั้งถ้าเป็นบ้านไซส์ M และ L ก็ยังจะได้ Double Master Bedroom อีกด้วยครับ จึงสามารถรองรับคนที่อาจแต่งงานมีครอบครัวใหม่แล้วก็จริง แต่ยังอยากอยู่บ้านหลังเดิมร่วมกันพ่อแม่และตายายได้สบายๆเลยครับ

แบบบ้านมี 3 Type 3 ขนาดให้เลือก โดยถ้าเป็น BELLE ไซส์เล็กสุด จะมีจุดเด่นอยู่ที่ Living Area ที่อยู่โซนหลังบ้าน ซึ่งต่างจากแบบบ้านหลังอื่นเพราะจะได้ความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อนที่มากกว่า รวมถึงยังเชื่อมต่อกับ Common Area ทำให้กลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่อีกด้วย

ส่วนแบบบ้าน L’AMOUR และ ENCHANTE’ จะเหมาะกับครอบครัวที่ใหญ่มากขึ้น ได้ที่จอดรถเพิ่มขึ้นและมีห้องนอนใหญ่เพิ่มขึ้นมาด้วย ยิ่งถ้าเป็นหลังใหญ่สุดเราจะได้ห้องแม่บ้านมาเป็น 2 ห้องเลยครับ เหมาะกับครอบครัวที่ต้องมีแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงประจำอยู่ 24 ชม. ซึ่งเค้าจะสามารถอยู่กันแบบครอบครัวหรือแยกกันอยู่เป็นส่วนตัวได้เลย

วัสดุ : ส่วนตัวผมมองว่าเค้าให้วัสดุมาดีเลยนะ ยิ่งเป็นบริษัทเจ้าของเดียวกับฤทธาด้วยแล้วผมก็ค่อนข้างมั่นใจในเรื่องคุณภาพการก่อสร้างพอสมควร เพราะเราก็เคยเห็นผลงานต่างๆของเค้ามาเยอะมากๆ โดยตัวบ้านของที่นี่จะมีทั้ง Precast ในแบบบ้านไซส์ S + M ซึ่งข้อดีคือจะแข็งแรงทนทาน ไม่ค่อยมีปัญหารั่วซึม และเก็บเสียงได้ดีมาก เพียงแต่จะทุบ/เจาะผนังเองไม่ได้นะครับ ส่วนบ้านไซส์ L เค้าจะใช้โครงสร้าง Conventional แบบก่ออิฐมวลเบา ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าหน่อย เพราะสามารถทุบ/เจาะหรือต่อเติมได้อย่างอิสระเลย

นอกจากนี้ยังมีการใช้ประตู-หน้าต่างเป็นของยี่ห้อ TOSTEM ทั้งหมด ซึ่งเป็นแบรนด์นำเข้าชื่อดังระดับโลกที่ดีมีคุณภาพสูง รวมถึงยังมีการนำ Siamese Technology เข้ามาใช้ภายในบ้านด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นระบบฟอกอากาศ Air of Life และ Solar Solution System ล้วนมีส่วนช่วยทำให้การอยู่อาศัยภายในบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดี และช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ผมชอบตรงที่เค้ามีการทำแนวสวนขนาดกับถนน Main ตลอดทั้งโครงการ และจะมีสวนใหญ่ๆกระจายอยู่ 2 ส่วนด้านใน รวมทั้งโครงการก็มีขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ ทำให้บรรยากาศการขับรถเข้า-ออกโครงการมีความสดชื่นและน่าจะร่มรื่นดีครับ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้เห็นพื้นที่ส่วนหนึ่งทางด้านหน้ากันไปบ้างแล้ว แต่ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ เค้าจะนำสายไฟลงใต้ดินให้ในโซนของบ้านพักอาศัยด้วย จึงทำให้ไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพและตัวบ้านพักเลย ดังนั้นโครงการก็จะดูสวยงามและเรียบร้อยกว่าโครงการทั่วๆไปครับ

สาธารณูปโภค : ต้องบอกก่อนว่าในวันที่เราเข้ามาถ่ายรีวิวนี้ จะยังไม่ได้เห็นพื้นที่ส่วนกลางของจริงนะครับ เพราะยังคงอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แต่จากภาพ Perspective บรรยากาศจำลองที่ได้เห็น ยอมรับเลยว่าดีไซน์ของอาคาร Clubhouse มีความน่าสนใจมาก เพราะเค้าได้แรงบันดาลใจมาจากปราสาทในเทพนิยายของยุโรป จนนึกว่าหลุดออกมาจากหนังของ Disney ส่วนฟังก์ชันอื่นๆก็จัดว่าให้มาครบครับ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ, Co-Living, Co-Working, Fitness และสวนต่างๆที่อยู่ภายในโครงการ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 15 – 21 ล้านบาท, 5 กุมภาพันธ์ 2567

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ใกล้ถนนกาญจนาภิเษก ความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆปัจจุบันยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดกแบบอ่านป้ายทะเบียน / CCTV / Magnetic & Shock Sensor ทั้งหลัง
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ผังโครงการแบ่งซอยเป็นส่วนตัวดี มีบ้านหน้าสวนเยอะ และฟังก์ชันบ้านเหมาะกับครอบครัวใหญ่ มีห้องนอนผู้สูงอายุทุกหลัง
  • วัสดุ 8.5/10 – ให้มาดีคุ้มกับราคา / โครงสร้างบ้านมี 2 แบบ / ประตู-หน้าต่าง TOSTEM ทั้งหลัง + Siamese Technology และ Solar Cell ทุกหลัง
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 9/10 – ทำสวนแนวยาวขนานไปกับถนนทั้งโครงการ และมีสวนใหญ่ 2 จุด รวมกว่า 5 ไร่ ดูสดชื่นและร่มรื่นดี
  • สาธารณูปโภค 8.25/10 – คลับเฮ้าส์ทรงปราสาทสวยน่าสนใจ มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ
  • 8.01 / 10.00

MONSANE Ratchapruek-Chaengwatthana เหมาะกับใคร

โครงการ MONSANE ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวหน้ากว้างติดถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ ดีไซน์สไตล์ Modern Classic และมีฟังก์ชันตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นครอบครัวใหญ่ 3 Generation ได้สบาย ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนผู้สูงอายุชั้นล่าง และห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง รวมถึงยังให้วัสดุมาดี มีเทคโนโลยีของ Siamese เข้ามาใช้ภายในบ้าน รวมถึงยังมีพื้นที่สีเขียวในโครงการเยอะ จัดผังแบ่งเป็นซอยย่อยได้ความเป็นส่วนตัว ที่สำคัญคือ มีอาคาร Clubhouse ดีไซน์เหมือนปราสาท Disney ที่สวยงามให้ใช้งานอีกด้วยครับ โดยต้องมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 15 – 21 ล้านบาท


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่