นอกจาก Toyota จะปราดเปรื่องในเทคโนโลยีไฮบริดและไฟฟ้าจนมียอดขายสะสมทั่วโลกหลายล้านคัน ยังมีทางเลือกใหม่กับ Toyota Hilux REVO xEV Series
ครั้งนี้ Toyota นำรถพลังงานขับเคลื่อนไฟฟ้า หรือ xEV จากพื้นฐานของ Toyota Hilux REVO ใส่มอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่เข้าไป ให้ทางทีมงาน Car2Day ได้ทดลองขับสั้นๆถึงสามรุ่นสามทางเลือกตอบโจทย์สิงห์รถกระบะโดยทั้งสามรุ่นมีแผนที่จะขายไทยในอนาคตขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เริ่มกันที่ Toyota Hilux REVO e กระบะไฟฟ้าที่ได้เห็นกันตั้งแต่งาน 60 ปี เมื่อปีกลาย งานทดลองวิ่งส่งของ Makro และ รถสองแถวที่พัทยาที่จะเริ่มวิ่งในช่วงปี 2024
เป็นกระบะที่ทาง Toyota Daihatsu Engineering Manufacturing (TDEM) ดัดแปลงจากรุ่นตอนเดียวจุดเด่นของกระบะไฟฟ้าคันนี้อยู่ที่ชุดกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบปิดทึบปะตราโลโก้สามห่วงแบบสีเงิน ไฟหน้า Bi-LED โคมสีฟ้าพร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกัน ล้ออัลลอยลายพิเศษ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/65R17 จากยี่ห้อ Dunlop Grandtrek A/T กระจกมองข้างและที่เปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ กันชนหลังโครเมียม ไฟท้าย LED จุดสังเกตคือช่องชาร์จอยู่ที่บังโคลนด้านซ้ายโดยชาร์จแบบ กระแสตรง DC และกระแสสลับ AC
มิติตัวรถคล้ายกับ Toyota Hilux REVO รุ่นตอนเดียวยกสูงตั้งแต่ความยาว 5,265 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,800 มิลลิเมตร ความสูง 1,795 มิลลิเมตร ทางด้านพื้นที่กระบะภายใน มีตั้งแต่ความยาว 2,315 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,575 มิลลิเมตร และความสูงกระบะท้าย 480 มิลลิเมตร
ภายในยกออปชันจาก REVO เครื่องดีเซลไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งแบบบักเก็ตซีท พวงมาลัยสามก้านปรับระดับได้ 4 ทิศทาง มาตรวัดความเร็ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay Android Auto สะดวกสบายรองรับทุกความบันเทิง ห้องโดยสารโทนสีดำทั้งหมดแผงคอนโซลหน้าดีไซน์เดิมพร้อมเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อม Full Mode ทิศทางลม 5 รูปแบบมอบความเย็นสบายทั้งคัน และหัวเกียร์ดีไซน์ใหม่แบบปุ่มหมุน
ขุมพลังที่เป็นไฟฟ้าล้วนทาง Toyota เปิดเผยบางส่วนตั้งแต่เรื่องอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรทำได้ในเวลา 11 วินาที และสามารถวิ่งไกลต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 300 กิโลเมตร ขับเคลื่อนสองล้อหลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ Single-speed reduction gear แต่ไม่ได้ระบุถึงความจุแบตเตอรี่ พลังแรงม้า แรงบิด และความสามารถในการบรรทุกสูงสุดเท่าไหร่รวมถึงระยะเวลาในการชาร์จทั้งแบบ CCS2 กระแสตรง DC และกระแสสลับ AC Type 2 เท่าที่ลองขับคจับอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่ง 0-100 กิโลกรัมทำได้ 11.08 วินาที แรงเร็วใช้งานดี ช่วงล่างเป็นปกติของกระบะที่เจอทั้งเด้งดีดในตอนขับทางตรง การควบคุมพวงมาลัยน้ำหนักกลางๆ ถึงคันนี้เป็นต้นแบบเน้นการขนส่งอย่างเดียว
ขยับมาขับอีกรุ่นกับ Toyota Hilux FCEV คันแรกคันเดียวของโลกและไทยในเวอร์ชันสี่ประตูจากเดิมจะเห็นแต่รุ่น Smart Cab ตามโลกโซเชียล ทุกอย่างเหมือนรุ่นสี่ประตูยกสูงดีเซลทั้ง ล้ออัลลอยหกก้านทูโทนขลิบสีน้ำเงินขนาด 18 นิ้วพร้อมยางขนาด 265/60R18 กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบปิดทึบส่วนบนปะตราโลโก้สามห่วง ส่วนล่างมีช่องระบายอากาศ ออกแบบกันชนหน้าดีไซน์ต่างจากรุ่นดีเซลและช่องเติมก๊าซช่องเดียวกับช่องเติมดีเซล
พร้อมมิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 5,325 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,900 มิลลิเมตร ความสูง 1,815 มิลลิเมตร ทางด้านพื้นที่กระบะภายใน มีตั้งแต่ความยาว 1,555 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,540 มิลลิเมตร และความสูงกระบะท้าย 480 มิลลิเมตรภายในเหมือนกับ REVO รุ่นเคริ่องดีเซลแต่ดีไซน์คอนโซลกลางโดยเฉพาะคอนโซลเกียร์ด้วยด้ามจับเกียร์ขนาดเล็ก เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold เป็นต้น
ขุมพลังไฮโดรเจนยกมาจาก Toyota Mirai เจเนอเรชันที่สองแบบ FCEV ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor รุ่น 4JM ให้กำลังมากถึง 185 แรงม้าที่ 6,940 รอบต่อนาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 0-3,267 รอบต่อนาที พร้อมแบตเตอรี่แบบ lithium-ion ขนาดเล็กลงเพียง 1.2 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ผนวกกับถังไฮโดรเจน 3 ถังใต้ท้องรถที่มีความจุถังทั้งหมด 141 ลิตร แถมวิ่งไกลสุดต่อการเติมหนึ่งครั้ง 600 กิโลเมตร (สเปกเดิมจากรุ่น Mirai วิ่งไกลสุด 647 กิโลเมตร) โดยเติมหนึ่งครั้งเพียง 3-5 นาที และความสามารถในการบรรทุกสูงถึง 1,500 กิโลกรัม โดยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 10.06 วินาที
ปิดท้ายด้วย Toyota Hilux Diesel HEV หรือ Toyota Hilux MHEV (Mild Hybrid 48V) เวอร์ชันสี่ประตูขับเคลื่อนสี่ล้อแน่นอนคันนี้เหมือนรุ่นดีเซลทุกประการกับชุดแต่งโครเมียมรอบคัน ภายในเหมือนกันแต่ด้วยคันนี้เป็นต้นแบบจึงใส่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านมาจาก Toyota Land Cruiser 250 และหัวเกียร์อัตโนมัติดีไซน์ใหม่และชุดมาตรวัดความเร็วดิจิทัลแบบเต็ม
ด้านขุมพลังคาดว่าเป็นดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร 204 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,800 รอบต่อนาทีพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า 48V ในชุดเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับ DC-DC Converter ทำหน้าที่แปลงความต่างศักย์ไฟฟ้ากระแสตรงเพื่อไปใช้ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ ประจุเข้าแบตเตอรี่ 48V และเลี้ยงระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ เสริมพละกำลังการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์ส่งแรงทันใจโดยเฉพาะในช่วงออกตัวและจังหวะเร่งแซงให้ดีกว่าแต่ความประหยัดเพิ่มขึ้นกว่าเดิม 10% เมื่อเทียบกับเครื่อง 2.8 เดิม ประหยัดสุด 13.16 กิโลเมตรต่อลิตร
เท่านั้นยังไม่พอติดตั้งระบบหยุดการทำงานเครื่องชั่วคราวขณะเหยียบเบรกหรือ Start-Stop System คู่กับระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดลูกใหม่แม้ว่าจะมีการเสริมทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ก้อนเล็กไปแต่ความสามารถในการลากจูง 3,500 กิโลกรัมยังคงเดิมและให้ระยะทางในการเติมน้ำมันหนี่งครั้งเพียง 1,200 กิโลเมตร ด้านการขับขี่สั้นๆรอบมารวดเร็วฉับไวพอสมควร อัตราเร่ง 0-100 ทำได้ 12.10 วินาที เพราะมีมอเตอร์ไฟฟ้ากับแบตเตอรี่เข้ามาเสริม ช่วงล่างเป็นแหนบ 3 แผ่นยังเกาะถนนเหมือนเดิมช่วงล่างหนึบเช่นเดียวกับเวอร์ชันดีเซลเพียวๆ
ถึง Toyota Hilux REVO xEV Series ทั้ง Toyota Hilux REVO e Toyota Hilux FCEV และ Toyota Hilux HEV หรือ Mild Hybrid 48V จะเป็นรถต้นแบบที่ยังอยู่ในการทดสอบหาข้อมูลเพื่อเก็บรายละเอียดในการพัฒนาขั้นสุดท้ายก่อนขายจริงในอนาคต ทั้งสามรุ่นที่ได้ชับสั้นๆในสนามทางตรงบุรีรัมย์ 1000 เมตร
Toyota ตั้งใจนำเสนอด้วยระบบส่งกำลังอันหลากหลาย (Multiple Pathway) ภายใต้แนวคิดที่จะมอบการขับเคลื่อน (mobility) สำหรับทุกคน Mobility for All” และ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ส่วนปีหน้าไทยจะได้เห็น Toyota Hilux REVO MHEV 48 V ทาง Car2Day จะมำเสนอในครั้งต่อไป
