Fashion Summary | The Most Popular Brands in Q1 of 2023

สรุปแล้ว! 5 อันดับแบรนด์ที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดในไตรมาสแรกของปี 2023

28/03/2023

...

จบกันไปแล้วสำหรับคอลเลคชัน Fall/Winter 2023 ที่วนเวียนไปตามแฟชั่นวีคได้ในทุกเมืองแฟชั่นแล้ว แต่ละแบรนด์ก็สู้รบปรบมือกันอย่างดุเดือดและสุดความสามารถ ทั้งในแง่ของรายได้ ผลงาน ตลอดจนพื้นที่สื่อ แต่ขอบอกเลยว่าซีซั่นนี้มี 5 แบรนด์ที่ดึงดูดสายตาและสร้างมูลค่าสื่อได้มากถึง 28 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ จะมีแบรนด์ไหนบ้าง ไปดูกันหน่อยดีกว่า

อันดับที่ 5 Chanel - ขวัญใจตัวแม่ที่ยังฮิตไม่เลิก

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนักสำหรับตำรับความเรียบหรูดูแพงนามว่า Chanel จะได้มูลค่าสื่อสูงถึง 17.1 ล้านเหรียญ เพราะคอลเลคชันประจำ Fall/Winter 2023 นั้นเป็นที่สนใจอย่างมากตั้งแต่ Front Row ที่ได้ศิลปินสาวชาวเกาหลีเจ้าของฉายา “ยัยเกี๊ยว” อย่าง Jennie วง BLACKPINK เข้ามาช่วยชูโรงผลักดันมูลค่าสื่อของชาแนลให้กระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย รวมถึงแบ่งปันเทรนด์ติดพลาสเตอร์ปิดแผลด้วย แต่ถึงกระนั้น แม้คอลเลคชันนี้ของ Chanel จะประสบความสำเร็จมากเพียงใด แต่เมื่อเทียบมูลค่าสื่อคอลเลคชันนี้กับคอลเลคชันที่ผ่านมา กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามเพราะลดต่ำลง 3% จากคอลเลคชันก่อน

แต่ยังไม่หมดเท่านี้เพราะเสียงวิพากษ์วิจารณ์สำหรับคอลเลคชันนี้ก็ยังดังเสียจนหนาหู โดยเป็นแง่บวกก็เยอะ หรือแม้แต่ในแง่ลบก็มีให้เห็นอยู่ดาษตา อาทิ ความสนใจที่พุ่งเป้าไปที่เสื้อโค้ทสีลายดอกไม้ ซึ่งผู้คนต่างรู้สึกว่าต้องตาต้องใจ, ความแหวกสไตล์พื้นฐานของ Chanel ที่คนต่างก็รู้สึกว่า “มันได้หรอ” หรือแม้แต่การจัด Styling เสื้อผ้าครั้งนี้ที่นักวิจารณ์หลายคนทั้งตัวเป็นๆ และกูรูอินเตอร์เน็ตก็ยังเห็นพ้องต้องกันว่า “แปลกๆ” แต่ถึงกระนั้น กระแสความนิยม chanel ก็ยังไม่ได้ลดน้อยถอยลงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะกระเป๋าที่ Jennie ถืออย่าง Chanel 22 Mini ที่เปิดตัวออกมาได้ไม่นา นหลายคนก็พร้อมออกตามล่าตามหน้าร้านต่างๆ ทันที เรียกได้ว่า สำหรับคอลเลคชันนี้ Chanel ก็ยังฆ่าไม่ตายเช่นเดิม

อันดับที่ 4 Prada - กระแสความฮิตจากมิลานที่ไม่เคยสร่างหาย

อันดับที่ 4 คงต้องให้กับตำนานที่ยังมีลมหายใจแห่งเมืองมิลานอย่าง Prada ครั้งนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลับมาด้วยความปังปุริเย่แบบ “สี่มือ สองสมอง” ที่เป็นการผนึกกำลังกันระหว่าง Raf Simon และ Miuccia Prada แน่นอนว่าความสำเร็จครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก สืบเนื่องมาจากกระแสความนิยมในช่วงปี 2022 ทั้งกระโปรงเทนนิสจิ๋ว หรือกระเป๋า Re-nylon จึงทำให้พราด้ายังถ่ายทอดความเป็นแฟชั่นกระแสหลักได้อย่างครบถ้วน สำหรับคอลเลคชันของ Prada นี้เรียกได้ว่าเน้นความเรียบหรูได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยกระดับเรื่องงาน Tailoring แบบเฉียบคบ ตามฉบับพราด้า พร้อมกับสไตล์ Puffer ด้วย

สำหรับคอลเลคชัน Fall/Winter 2023 นี้ ผลตอบรับเรื่องมูลค่าสื่อของ Prada ได้พุ่งสูงขึ้นถึง 25.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าคอลเลคชันที่แล้วถึง 3% แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยสำหรับความสำเร็จของคอลเลคชันนี้ นั่นก็คือ นักร้องสาวชาวอังกฤษ Dua lipa ซึ่งมาในลุคเสื้อปกพิมพ์ลาเสริมลูกเล่นด้วยคอเสื้อสีชมพูหวานๆ ตัดความเท่ด้วยการนำเบลสเซอร์สีดำมาสวมทับ พร้อมกระเป๋าทรง Hobo แน่นอนว่าเพียงแค่เธอปรากฏตัวในฟร้อนต์โรว์ก็ผลักดันให้ Prada ได้รับมูลค่าสื่อไปถึง 7.3 ล้านเหรีญสหรัฐเลยทีเดียว

อันดับที่ 3 Louis Vuitton - ม้ามืดที่หยิบเอาสไตล์ปารีเซียงมาใช้

อันดับ 3 Louis Vuitton ม้ามืดแห่งวงการแฟชั่นที่ครั้งนี้เรียกได้ว่าครั้งนี้กลับมาแบบพลิกโผเลยทีเดียว เพราะใครจะไปคาดคิดว่า Nicolas Ghesquière จะขุดค้นเอา Parisian Style กลับมาอีกครั้งในรันเวย์ Fall/Winter 2023 ณ Musée d’Orsay โดยคอลเลคชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจโรงละคร Opéra Garnier ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแห่ง Phantom of the Opera พร้อมกับผสมผสานความ sci-fi และสไตล์ surreal ถ่ายทอดความหรูหราผ่านซิลูเอทถึง 14 ลุค ไม่ว่าจะเป็น ชุดเดรส Trapeze คล้ายใยแมงมุม, ชุดสูทช่วงไหล่กว้าง, กางเกงหนัง, แจ็คเก็ตขนสัตว์ เป็นต้น และกระแสตอบรับของ Louis Vuitton คอลเลคชันนี้ก็เป็นไปตามคาด ประสบความสำเร็จอย่างท้วมท้นอีกตามเคย พร้อมกับคำชมที่หลายคนไม่เคยคิดว่า Nicolas Ghesquière นั่นก็คือ “พี่แกกินอะไรผิดมารึเปล่า ทำไมมันหรูเลิศได้ขนาดนี้” ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ได้สร้างมูลค่าสื่อสูงถึง 27.4 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อเทียบกับคอลเลคชันก่อนแล้วมากขึ้นถึง 63% เรียกได้ว่าหลุยส์วิตตองก็ยังคงครองตำแหน่งผู้รันวงการแฟชั่นได้เช่นเคย

และนอกจากความสวยหรูพร้อมพรั่งในสไตล์ปารีเซียงแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนเฝ้ารอดูนั่นก็คือ นักแสดงสาว Zendaya ผู้ที่มาในบราสีดำทับด้วยชุดสูทลายเสือสุดเปรี้ยวเข็ดฟัน พร้อมกับสร้อยคอสองเส้นไล่เลเยอร์และกระเป๋าถือใบจิ๋ว แน่นอนว่าการปรากฏตัวครั้งนี้ของ Zendaya ได้สร้างมูลค่าสื่อให้แก่หลุยส์วิตตองถึง 6.6 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม แม้โชว์จะดีมากเพียงใด แต่ก็ยังผสมกลิ่นอายความคาวดราม่าอยู่เนืองๆ ว่ากันว่าเกิดประเด็นพิพาทบางอย่างระหว่าง Law Roach สไตลิสต์ของ Zendaya ที่จู่ๆ ก็จะโดนไปนั่งแถวสองของรันเวย์จนนำไปสู่การลาออกจากวงการ... รึมันจะเกี่ยวกับ Louis Vuitton ด้วยรึเปล่านะ?!

อันดับที่ 2 Dior - แฟชั่นเฟมินีนจาก 3 สาวแดนน้ำหอม

ถ้าพูดถึงความเป็นฝรั่งเศสจ๋าๆ ก็ไม่อาจปฏิเสธภาพจำของแบรนด์ผู้ให้กำเนิด New Look อย่าง Dior ไปได้ ซึ่งครั้งนี้ Maria Grazia Chiuri ก็ยังดีเทลและงานออกแบบให้มีความปารีเซียงได้อย่างครบถ้วน โดยได้แรงบันดาลใจมากจาก 3 สาวในตำนานแห่งแดนน้ำหอมอย่าง Catherine Dior, Juliette Gréco และ Edith Piaf พร้อมถ่ายทอดผ่านชุดกระโปรงลายพิมพ์ เสื้อโค้ทลาย Tartan หมวกเบเรต์และบัคเก็ตสุดชิคที่ให้กลิ่นอายความหรูหราหยิบไปใส่ได้แบบ Je ne regrette rien ซึ่งทั้งหมดทุกลุคนี้ต่างยกระดับให้ Dior มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าผลตอบรับของคอลเลคชันก็ยังคงเป็นที่หลงรักของสาวกแฟชั่นทั้งหลายเช่นเดิม โดยเฉพาะหมวกใบจิ๋วที่สาวก Dior รอจ่อเข้าคิวไปซื้อกันแล้ว และมูลค่าสื่อเองก็พุ่งสูงขึ้นเช่นเดียวกันกับกระแสการตอบรับที่ดี โดยมูลค่าสื่อสิทธิอยู่ที่ 28.5 ล้านดออลาร์เหรียญสหรัฐ แต่กระนั้นก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าคอลเลคชันก่อนทำไว้ดีกว่า จึงทำให้จำนวนมูลค่าสื่อโดยรวมเมื่อเทียบกับคอลเลคชันก่อนลดลงถึง 37% อย่างไรก็ตาม นอกจากความโดดเด่นของคอลเลคชันแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนเฝ้ารอติดตามกันอย่างเนืองแน่น นั่นก็คือ สาว Jisoo วง Blackpink ที่ปรากฏตัวในลุคชุดม่วงสว่างพร้อมกับกระเป๋า Lady Dior สีดำรุ่นใหม่ ซึ่งในลุคนี้ได้สร้างมูลค่าสื่อให้กับ Dior ถึง 8 ล้านดอลลาร์เหรียญสหรัฐจนทำให้ดิออร์ได้กลายเป็นอันดับ 2 ไปโดยปริยาย

อันดับที่ 1 Saint Laurent - ความโฉบเฉี่ยวบนรันเวย์สู่หน้าหนึ่ง The New York Times

สำหรับอันดับหนึ่ง จะเป็นแบรนด์อื่น ก็คงไม่ได้ เพราะ Saint Laurent ขอยึดอันดับนี้ไว้แล้ว โดย Anthony Vaccarello ได้พาสาวกแฟชั่นทุกคนได้ตื่นตาตื่นใจอีกครั้งกับสูทยกไหล่และ Tailoring สไตล์ Saint Laurent ที่ขึ้นชื่อว่าเรียบและเฉียบคมที่สุด นำเสนอภายใต้รันเวย์แสงไฟสลัวใต้แชนเดอเลีย และบอกเลยว่าคอลเลคชันนี้ของ Saint Laurent ถือได้ว่าโดดเด่นและเป็นที่สนใจมากๆ กวาดมูลค่าสื่อสุทธิโดยรวมถึง 29 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าเมื่อเทียบกับคอลเลคชันที่แล้วมูลค่าสื่อได้ลดลงถึง 32% แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหายไปจากแฟชั่นกระแสหลัก

ความปังของคอลเลคชันนี้ไม่เพียงแต่เตะตาเหล่าฟชั่นนิสต้าเท่านั้น หากแต่ยังดึงดูดใจให้นักธุรกิจทั้งหลายต้องเหลียวมามองในแบรนด์ Saint Laurent ด้วย เพราะคอลเลคชันนี้ได้รับการขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ The New York Times ซึ่งสะท้อนภาพลักษณ์ว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นและสินค้าหรูหราของ Saint Laurent นั้นน่าจับตามองเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นจากกระเป๋าแบรนด์เนมอย่าง Saint Laurent ทรงจดหมายที่กลายเป็นไอเท็มสำคัญประจำยุคนี้เลยด้วย และอีกหนึ่งประกายสำคัญที่ดัน Saint Laurent ให้ได้อันดับหนึ่งด้านพื้นที่สื่อ คงไม่พ้นศิลปินสาวแดนกิมจิอย่าง Rose วง Blackpink ที่เปิดตัวมาในลุคเรียบง่าย แต่สบายตา ซุกซ่อนความหรูหราไว้ได้สมกับแบรนด์ Saint Laurent ซึ่งเธอคนนี้ได้สร้างพื้นที่สื่อถึง 10.2 ล้านให้แก่แบรนด์ Saint Laurent จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนักที่ซีซั่นนี้ใครๆ ก็ต้องยกให้เธอเป็นนัมเบอร์วันประจำ Fall Winter 2023 นี้

สรุป

จบกันไปแล้วสำหรับ 5 อันดับแบรนด์ที่สร้างมูลค่าสื่อได้มากที่สุดในซีซั่นนี้ บอกเลยว่าฤดูกาลนี้ไม่มีแผ่วเลยแม้แต่น้อย เพราะทั้งดีเทล การตัดเย็บ หรือแม้แต่วัสดุก็ยังแข่งกันสร้างสรรค์กันแบบสุดเหวี่ยง ใครเป็นสาวกแฟชั่นต้องรอติดตามเลยว่า ซีซั่นหน้าแบรนด์ไหนจะมาแรง