Will we arrive at the Golden Age of ASICS?!

จริงหรือไม่…ยุคทองของ ASICS กำลังจะกลับมาในปี 2023?

12/01/2023

...

“ASICS” รองเท้าวิ่งอันดับ 1 ที่นักวิ่งไว้วางใจและพร้อมจะบอกต่ออย่างไม่ลังเล แม้ว่าในปัจจุบันรองเท้าวิ่ง หรือ Sneaker ต่างๆ ก็มีให้เห็นมากมายหลากหลายแบรนด์แต่ทำไมรองเท้า asics ถึงได้กลับมาเป็นที่สนใจและยังคงเป็นรองเท้าวิ่งสุดฮิตติดอินเทรนด์ ครองใจในหมู่วัยรุ่นและวัยกลางคนทั้งรองเท้าผู้หญิงและรองเท้าผู้ชายมาอย่างยาวนาน คำตอบก็คงไม่ยากนั่นก็เพราะว่า รองเท้าเอสิคสามารถดึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ออกมาได้เป็นอย่างดี มุ่งมั่นในการยกระดับสุขภาพร่างกายและจิตใจด้วยกีฬาอย่างแน่วแน่ และนอกจากเรื่องคุณภาพแล้ว “ASICS” ยังพร้อมจะปรับตัวให้เข้ากับลูกค้าได้ทุกยุคสมัย ทั้งในเรื่องของดีไซน์และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำเข้ามาส่งเสริมให้รองเท้านั้นออกมาดูล้ำสมัยและดีไซน์ถูกใจไม่ตกเทรนด์อีกด้วย

เปิดประวัติ ASICS แบรนด์รองเท้าสุดอมตะคลาสสิค

รองเท้า asics แบรนด์ญี่ปุ่นระดับโลกที่ก่อตั้งโดยทหารแพ้สงคราม สู่ไอเดียโลโก้รองเท้าคีบหนวดปลาหมึก และคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ารองเท้าเอสิคนั้นอยู่คู่กับโลกกีฬาของเรามายาวนาน เป็นผลิตภัณฑ์กีฬาและรองเท้ากีฬาสัญชาติญี่ปุ่นที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ.1949 โดยทหารผ่านศึกที่ชื่อว่า “คิฮาชิโร โอนิซึกะ” (Kihachiro Onitsuka) แรงบันดาลใจทั้งหมดนั้นเกิดจากความหวังและความมุ่งมั่นของเขาที่มีต่อประเทศ เนื่องจากญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ทุกคนสิ้นหวังและบอบช้ำจากผลกระทบปัญหาด้านความขาดแขลนอาหารและที่อยู่อาศัย คิฮาชิโร โอนิซึกะ จึงอยากสร้างขวัญกำลังใจฟื้นฟูสภาพจิตใจและความเป็นอยู่ที่ดีจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งสิ่งที่เขาได้เลือกทำ นั่นก็คือ “ผลิตรองเท้ากีฬา” เพราะเขาเชื่อว่ากีฬานั้นนอกจากมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังส่งผลที่ดีต่อสภาพจิตใจของคน และแน่นอนว่าผลลัพธ์ก็ย่อมทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นได้ สุดท้ายก็จะส่งผลต่อวัฒนธรรมและสังคมโดยรวมนั่นเอง ซึ่งในเวลาต่อมาเขาก็ได้ประสบผลสำเร็จและพาแบรนด์กีฬาของญี่ปุ่นอย่างเอสิคเติบโตจนเป็นคู่แข่งของแบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่อย่าง Nike, adidas ได้ และนอกจากนั้น แบรนด์ ASICS ที่เน้นเรื่องของรองเท้ากีฬาแล้ว ก็ยังมีแบรนด์ที่เน้นรองเท้าผ้าใบแฟชั่นสไตล์สปอร์ตอย่าง โอนิซึกะ ไทเกอร์ (Onitsuka Tiger) และ เอสิค ไทเกอร์ (ASICSTIGER) ที่ก่อตั้งมาจาก “คิฮาชิโร โอนิซึกะ” เหมือนกันแต่เน้นจุดเด่นที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองที่แตกต่างกันไป

ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยใหม่ ดีไซน์ไม่ตกเทรนด์

“ASICS” พัฒนาและสร้างสรรค์ผลงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีระดับแอดวานซ์เพื่อมุ่งให้ตัวเองเป็นรองเท้าวิ่งระดับพรีเมียมที่พร้อมส่งมอบความมั่นคงและประสบการณ์ในการวิ่งอันแสนยอดเยี่ยมให้กับผู้บริโภค แถมยังปรับดีไซน์ให้ตอบโจทย์เรื่องไลฟ์สไตล์กับยุคสมัยนี้มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันเมื่อเทรนด์แฟชั่นมาถึง แบรนด์กีฬาหลายแบรนด์เริ่มมีการนำเอารองเท้าวิ่งมาพัฒนาด้วยการใส่ไลฟ์สไตล์เพิ่มเข้าไปจนกลายเป็นรองเท้า Street Fashion ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และเมื่อเทรนด์ของ Street Fashion เดินทางมาถึงยุคนี้ แบรนด์อิมเมจของทั้ง ASICS และ Onitsuka Tiger จึงตัดสินใจเปิด Hybrid Brand ใหม่อย่าง “ASICS Tiger” ถือเป็นแบรนด์หลักที่ 3 ภายใต้กลุ่ม ASICS และ Onitsuka Tiger และมีการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ซึ่งตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของการใช้งานและดีไซน์ ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นรองเท้าหนาแน่นทนทาน ผลิตจากวัสดุคุณภาพที่ช่วยลดการกระแทกได้เป็นอย่างดี มีการออกแบบให้สามารถสวมใส่ได้หลากหลายโอกาสมากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของรองเท้าผ้าใบแฟชั่น   และนอกจากนี้ รองเท้าวิ่งเอสิคยังมีจุดเด่นแบบไฮไลท์เด็ดๆ ที่แตกต่างกับรองเท้าผ้าใบแฟชั่นทั่วไป นั่นก็คือ รองเท้าแต่ละคู่ของ ASICS จะประกอบไปด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย ความปลอดภัยและความสบายของผู้สวมใส่ เรียกได้ว่านอกจากจะดีไซน์ตามเทรนด์ยุคสมัยยังสวมใส่สบายแบบสุดๆ โดยจุดเด่นของเทคโนโลยี นั่นก็คือ GEL™ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีผลิตจากวัสดุพิเศษที่จะช่วยลดแรงกระแทกขณะลงเท้าได้อย่างดีเยี่ยม และอีกหนึ่งเทคโนโลยีนั่นก็คือ FLYTEFOAM™ พื้นน้ำหนักเบาที่ช่วยเพิ่มแรงส่งระหว่างวิ่งและช่วยลดอาการบาดเจ็บของของเท้าแม้จะวิ่งเป็นเวลานาน อีกทั้งแบรนด์เอสิคยังมีบริการที่หลากหลายทำให้ผู้ใช้ได้มีประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม เช่น แอปพลิเคชันสำหรับการวิ่งและฟิตเนส หรือศูนย์ทดสอบสมรรถภาพการวิ่งระดับโปรนั่นเอง

กลยุทธ์ ASICS สู่การกลับมาฮิตอีกครั้ง

ปัจจุบัน ในท้องตลาดรองเท้าวิ่งหรือรองเท้ากีฬาทั่วโลกพัฒนาไปไกลมาก อีกทั้งล้วนแข่งขันกันด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งสิ้น ทุกแบรนด์ปลุกปั้นจุดแข็งผ่านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่สบาย น้ำหนักเบา กระชับเท้า หรืออื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งไม่ได้แข่งกันที่การดีไซน์แต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป “ASICS” จึงมุ่งมั่นที่จะมีวิสัยทัศน์ “การสร้างไลฟ์สไตล์ที่มีคุณภาพผ่านเทคโนโลยีอันชาญฉลาด” จนทำให้ในปัจจุบันรองเท้าวิ่ง ASICS กลายเป็นแบรนด์ที่นักวิ่งทั่วโลกให้การตอบรับเป็นอย่างดี แถมยังได้รับความนิยมอยู่ทั่วโลกเสมอมา  และยิ่งไปกว่านั้น รองเท้าวิ่งหลายต่อหลายรุ่นของ ASICS ก็ล้วนมีนักวิ่งระดับโลกใช้สวมใส่ในการแข่งขันอีกด้วย เนื่องด้วยดีไซน์การออกแบบที่สวยงามบวกกับเทคโนโลยีการผลิตรองเท้าวิ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อซัพพอร์ตนักวิ่งโดยเฉพาะ จึงทำให้ใครหลายคนที่ได้ลองสวมใส่รองเท้าจากแบรนด์นี้ก็ต้องติดอกติดใจไปตามๆ กัน และเอสิคได้ชู 3 กลยุทธ์เรื่องการตลาดที่สำคัญทำให้แบรนด์นั้นกลับมาอยู่ในกระแสได้ทันยุคสมัยนั่นก็คือ 1.นำเทคโนโลยีและอินโนเวชั่นเข้ามาพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด เช่น เทคโนโลยีใหม่เพิ่งเปิดตัวไปปีที่แล้วกับ “Energy Saving” ที่ช่วยลดการสูญเสียพลังงาน 2.สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์หรือออนไลน์ 3.เน้นโฟกัสรองเท้าวิ่ง สร้างแบรนด์ผ่านการเข้าสนับสนุนงานวิ่งมาราธอนในรูปแบบต่างๆ

สร้างความดึงดูดใจสู้กับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ “บุกตลาดอาเซียน”

การสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องของ ASICS คือการวางเป้าหมายการเติบโตเพื่อสร้างฐานของแบรนด์ในภูมิภาคอาเซียนให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าแบรนด์รองเท้าเอสิคจะครองใจใครหลายๆ คนอยู่มากมาย แต่ก็ยังมีคู่แข่งยักษ์ใหญ่ของโลกที่เอสิคต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Nike หรือ adidas แต่ในมุมมองกลับกัน  ASICS เลือกที่จะบุกเข้าในตลาดไทยและแถบอาเซียนเพราะนั้นก็ย่อมเป็นหนทางที่ดีกว่าที่จะเลือกเจาะตลาดไปทั่วโลกในคราวเดียว จึงทำให้เอสิคประกาศบุกตลาดรองเท้าวิ่งแถบอาเซียนอย่างเป็นทางการนั่นเอง และนี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมในช่วงปีที่ผ่านมานี้แบรนด์ ASICS ถึงได้เข้ามาอยู่ในสายตาและเป็นที่น่าสนใจอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดจากการร่วมเป็นสปอนเซอร์งานต่างๆ ทั้งในกีฬาซีเกมส์ งานมาราธอน หรือแม้แต่งานมหกรรมกีฬาอย่างโตเกียวโอลิมปิก 2020 เอสิคเองก็ยังเป็นผู้ให้การสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการอีกด้วย คงไม่ต้องแปลกใจที่รองเท้าเอสิคได้เข้ามาผ่านหูผ่านตา เพราะเขาได้เจาะตลาดเราแล้ววว!

สรุป

ASICS ได้ปรับตัวเพื่อให้ตัวเองกลับมามีบทบาทมากขึ้นในวงการรองเท้าวิ่ง เพราะได้ผสมผสานแฟชั่นสไตล์กับความเป็นสปอร์ตได้อย่างลงตัวโดยแบ่งกลุ่มผู้ใช้อย่างชัดเจนเป็น 2 กลุ่มคือ สวมใส่เพื่อไลฟ์สไตล์และใส่สำหรับเล่นนักกีฬาโดยเฉพาะ ถือว่าเป็นการหาทางออกที่ดีให้กับแบรนด์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว อีกทั้งยังดันกลยุทธ์การตลาดแบบสปอนเซอร์อย่างจริงจังทำให้ ASICS นั้นเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น