Styles are never blind! What is Harry Styles' effect on the fashion industry?
สไตล์ไม่เคยตาย! ทำไม Harry Styles ถึงได้รับฉายาว่า “เจ้าพ่อแห่งแฟชั่น”
11/03/2023
วินาทีนี้ถ้าพูดถึงแฟชั่นไอคอนิกฝ่ายชายที่เด่น ดัง ปังปุริเย่ ภาพในหัวแรกก็ต้องเป็นบุคคลนี้แน่นอน นั่นก็คือ Harry Styles ที่ได้ยกระดับความแฟชั่นให้ก้าวไปสู่ยุคใหม่ที่ไร้เพศแล้ว และไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่านับวันอิทธิพลด้านแฟชั่นของ Harry Styles ก็ได้ไหลเวียนและแทรกซึมไปทั่วทุกมุมโลกตั้งแต่งานกาลาไปจนถึงบ้านของเหล่าแฟนเพลง และวันนี้ SASOM (สะสม) ขอพาทุกคนไปมาบุกโลกของพ่อหนุ่มสายแฟชั่นคนนี้กันพร้อมตอบคำถามว่า ทำไม Harry Styles ถึงกลายเป็นไอคอนิกด้านแฟชั่น! พร้อมแล้วไปลุยกันได้เลย
แฟชั่นไอคอนิกสำหรับทุกเพศ ทุกวัย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเด็กๆ ยุค Gen Z ต่างก็เติบโตมาจากเพลงของ Harry Styles กันทั้งนั้น! แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เรื่องเพลงเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นทัศนคติและแฟชั่นของเขาด้วย ตัวพ่ออย่างเขานี่แหละที่ทำให้โลกได้รู้ว่า “อยากแต่งอะไรก็แต่ง อยากใส่อะไรก็ใส่” พร้อมกับทรีตแฟนคลับทุกเพศทุกวัยด้วยพลังบวกสุดๆ แต่ถ้าสิ่งที่พ่อหนุ่มคนนี้ได้มอบแรงบันดาลใจให้แก่ชาวโลก นั่นก็คือการถ่ายแบบลงปกนิตยสาร Vogue ที่ทำให้โลกแฟชั่นต้องหยุดนิ่งและกลับมามองว่าพ่อหนุ่มคนนี้กำลังคิดจะทำอะไรอยู่ นั่นก็คือการใส่ชุดที่มีความเป็นเฟมินีนสูงมากๆ ทั้งกระโปรง ทั้งชุดเดรส ทั้งเสื้อแหวกอก ทั้งเสื้อมีระบาย และอื่นๆ อีกมากมายโดยมาในคอนเซ็ปต์ “Bring back manly men.” แน่นอนว่าการที่ผู้ชายหยิบกระโปรงมาใส่ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่มากๆ สำหรับวงการแฟชั่นในยุคนั้น เพราะแฟชั่นยังแบ่งเพศอยู่ และแฮรี่ก็ได้ทลายเส้นคั่นกลางนั้นลงจนย่อยยับพร้อมกับกระแสที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ได้แก่ ฝั่งเลิฟชุดและฝั่งไม่อิน แต่ตัวพ่อจะแคร์เพื่อ แน่นอนว่าไม่มีอะไรหยุดยั้งแฟชั่นของตัวพ่อได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าการขึ้นปกครั้งนั้นได้สร้างแรงขับเคลื่อนและเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ชายทุกช่วงวัยเริ่มตระหนักได้ว่า เสื้อผ้าก็เป็นแค่ผ้าเท่านั้น ไม่ได้เป็นมาตราฐานการชี้วัดว่าแมนร้อยเปอร์เซ็นต์แต่อย่างใด
"ลูกรัก" งานพรมแดง
ในทุกครั้งที่มีงานเดินพรมแดงใดๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งงาน Grammys) หนึ่งสิ่งที่เหล่านักข่าวและคนทั่วไปต่างตั้งหน้าตั้งตารอ นั่นก็คือ ชุดของ Harry Styles เพราะทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวขึ้นมาแสงแฟลชจะสาดไม่หยุดและในวันรุ่งขึ้นก็จะพาดหัวกันอย่างฮือฮาบนหน้าเว็บสายแฟชั่นในทำนองว่า “ตัวพ่อสายแฟชั่นสร้างเรื่องอีกแล้ว” อย่างที่เราเห็นกันว่าชุดของ Harry Styles นั้นได้ฉีกกฏทลายทุกกำแพงทางเพศให้ย่อยยับลง ยกตัวอย่างเช่นล่าสุดในงาน Grammys 2023 ที่เขาได้มาถึงพรมแดงพร้อมกับชุดเอี๊ยมสูทลาย Patchwork สีรุ้ง พร้อมโชว์กล้ามแน่นๆ ให้คนได้พูดถึงกันทั่วโลกอินเตอร์เน็ต หรือในบางปีก็เน้นความ Feminity ในยุคก่อนด้วยการดึงเอาเสื้อ Corsage มาใส่รัดช่วงเอวพร้อมกับระบายตกแต่งสีดำชิ้นใหญ่ตรงอก และยกไม่หมดเท่านี้ อีกปีที่เรียกได้ว่าเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดและเป็นปีแห่งการเปิดฉาก Androgynous Looks ของ Harry Styles นั่นก็คือ งาน Met Gala ในปี 2019 ที่ตัวพ่อได้เลือกใส่เสื้อซีทรูมีระบายสีดำจากแบรนด์ Gucci แมทช์เข้ากับกางเกงสีดำ งานนี้บอกเลยว่าน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ สร้างกระแสความฮอตให้หนุ่มๆ ทุกคนกล้าใส่ซีทรูกันมากขึ้น! ซึ่งทั้งหมดนี้ได้สะท้อนเลยว่าแฟชั่นในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหรือเพศใด ก็สามารถใส่เสื้อผ้าแบบที่ตัวเองอยากใส่ได้
คอนเสิร์ตก็จัดเต็ม
งานหลวงไม่ให้ขาด งานราษฎร์ไม่ให้เสียจริงๆ สำหรับพ่อหนุ่ม Harry Styles เพราะไม่ใช่แค่งานพรมแดงเท่านั้นที่พี่แกจะจัดเต็ม แต่งานคอนเสิร์ตของตัวเองพี่แกก็ไม่ปล่อยให้เงียบเหงา เสื้อผ้ายังคงจัดหนักจัดเต็มเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน แถมยังเติมความแฟชั่นนิสต้าอย่างหนักผ่านสีสันสดใสทั้งเมทัลลิค พาสเทล งานขน งานระบายเต็มไปให้เกลื่อนเวที หรือแม้แต่เอาธงสีรุ้งขึ้นมาโบกบนเวทีพี่แกก็ทำมาแล้ว! และเราก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าทุกครั้งที่เราไปดูคอนเสิร์ต เราก็คาดหวังจะดูชุดพี่แกด้วยแหละเพราะแต่ละชิ้น แต่ละอันนี่มันโดดเด่นจนไม่รู้ว่าซื้อมาจากที่ไหน แต่จากทรงแล้วงาน Tailor แน่นอน! และในบางครั้งบางคราว เราก็จะรู้สึกได้ว่าพอ Harry Styles เอาไอเท็มชิ้นไหนมาใส่ ไม่นานนักโลกก็จะเริ่มฮิตกัน ยกตัวอย่างช่วงนี้ที่พ่อออกเวิร์ลทัวร์ ก็มักจะมีรองเท้า adidas gazelle โผล่มาให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในงานคอนเสิร์ต และก็ตามเป็นไปตามคาด รุ่นนี้ก็ถึงยุคทองแห่งความฮิตสุดๆ แล้ว!
คอลเลคชันที่มาจากเสียงหัวเราะ
และในบางครั้งการความกวนโอ๊ยขี้เล่นของพ่อหนุ่ม Harry Styles ก็สร้างเรื่องจนแบรนด์สายลักชัวร์อย่าง Gucci ต้องออกมาเล่นด้วย และด้วยความสนิทชิดเชื้อกับอดีตครีเอทีฟไดเร็กเตอร์อย่าง Alessandro Michele คอลเลคชันสำคัญอย่าง Gucci Ha Ha Ha จึงได้เกิดขึ้น แน่นอนว่าแค่เห็นชื่อก็รู้แล้วว่าคอนเซ็ปต์จะมาประมาณไหน ก็ต้องเป็นความขี้เล่นสดใสสิ! โดย Alessandro Michele ได้ออกมากล่าวว่าชื่อคอลเลคชันนี้ก็มาจากแชทที่เขามักคุยกับ Harry Styles บ่อยๆ นี่แหละ โดยเอกลักษณ์ของ Gucci Ha Ha Ha จะเป็นการนำสไตล์ Sartorial เข้ามาผสมผสานกับความโรแมนติกให้ดูสดใสยิ่งขึ้น บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งคอลเลคชันที่ไม่ควรพลาดจริงๆ